เนื้อหาในหมวด ข่าว

เคยมีอยู่จริง! \

เคยมีอยู่จริง! "กระทรวงแพทยาคม" ที่เปรียบได้กับ "กระทรวงเวทมนตร์" ของไทยในอดีต

หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่าในอดีต ประเทศไทยเคยมีกระทรวงที่ดูแลเรื่อง “เวทมนตร์” โดยเฉพาะ

แม้จะไม่ได้ใช้ชื่อนี้อย่างเป็นทางการ แต่ในเอกสารโบราณได้บันทึกไว้ว่ามีหน่วยงานชื่อ “กระทรวงแพทยาคม” หรือในบางแหล่งเรียกว่า “ศาลกระทรวงแพทยา” ซึ่งมีหน้าที่พิจารณาโทษผู้ที่กระทำผิดเกี่ยวกับเวทมนตร์ คาถา และไสยศาสตร์โดยเฉพาะ

ย้อนกลับไปทำความรู้จักกับหนึ่งในกระทรวงที่แปลกและน่าสนใจที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย ที่แม้จะถูกยกเลิกไปตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แต่ก็เคยมีอยู่จริง และเป็นส่วนหนึ่งของระบบราชการในอดีต

ll

"กระทรวงแพทยาคม" คืออะไร?

แพทยาคม นั้นมาจากคำว่า แพทย และ อาคม รวมกัน โดยคำว่า แพทย มีความหมายว่า หมอรักษาโรค ส่วนคำว่า อาคม มีความหมายว่า เวทมนตร์ รวมกันมีความหมายว่า หมอรักษาโรคเกี่ยวกับเวทมนตร์

กระทรวงแพทยาคม ตามประวัติศาสตร์ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าเกิดขึ้นสมัยใด แต่ถูกกล่าวถึงในหลายรัชสมัย เช่น พระเจ้าอู่ทอง, พระเจ้าทรงธรรม แต่ในรัชสมัยพระเจ้าทรงธรรม ได้ปรากฏบันทึกว่า กระทรวงแพทยาคม มีไว้เพื่อชำระคดีผู้กระทำผิดเกี่ยวกับคุณไสย เสน่ห์ยาแฝด ฝังรูปด้วยวิทยาคมเอาไว้ โดย วิทยาคม มาจาก วิทย และ อาคม รวมกัน

คำว่า วิทย มีความหมายว่า ความรู้ ส่วนคำว่า อาคม มีความหมายว่า เวทมนตร์ รวมกันจึงมีความหมายว่า ความรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์ (ส่วน วิทยาคม ที่เห็นในชื่อโรงเรียนนั้น คำว่า อาคม มีอีกความหมาย คือ การมาถึง ดังนั้น วิทยาคม, พิทยาคม ในชื่อโรงเรียน จึงมีความหมายว่า การมาถึงของความรู้)

กระทรวงแพทยาคม หรือ ศาลกระทรวงแพทยา จะมีผู้เชี่ยวชาญทางวิทยาคมเป็นตุลาการ มีหน้าที่สอบสวนพิจารณาโทษผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการกระทำทางไสยศาสตร์ เรื่องคุณไสยโดยเฉพาะ โดยจะมีอำนาจหน้าที่พิจารณา ความกล่าวหาว่าเป็นกระสือ, กระหัง, ทำเวทมนตร์อาคม, ใส่ว่านยา, ทำเสน่ห์ยาแฝดยาเมา, รีดลูก โดยผู้เสียหายไม่ถึงตาย หรือคดีพราหมณ์โยคีเป็นโจทก์จำเลยหาความกัน เป็นต้น ถ้าความเกิดในหัวเมือง ขุนหมื่นกรมแพทยาหัวเมือง เป็นผู้พิจารณา

โดย กระทรวงแพทยาคม หรือ ศาลกระทรวงแพทยา มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น จนกระทั่งถูกลดบทบาทและอำนาจจาก ศาลกระทรวงแพทยา เป็น ศาลกรมแพทยา ในรัชสมัยรัชกาลที่ 3 ปี 2380 และในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 เกิดการปฏิรูปหลายอย่างในแผ่นดิน หนึ่งในนั้นคือ การปฏิรูปศาล เนื่องจากเกิดวิกฤตทางการศาล

ท้ายที่สุด ศาลกรมแพทยา ถูกยุบลง เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2434 เพราะถูกมองว่าล้าหลัง ไม่ทันสมัย ประกอบกับเวลานั้น รัชกาลที่ 5 มีนโยบายพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าทัดเทียมชาติมหาอำนาจ จึงต้องยกเลิกกระทรวงนี้ไปในที่สุด