เนื้อหาในหมวด ข่าว

10 เมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก 2025 อันดับ 1 อยู่เอเชีย ครองแชมป์ 3 ปีซ้อน

10 เมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก 2025 อันดับ 1 อยู่เอเชีย ครองแชมป์ 3 ปีซ้อน

เปิดชื่อ 10 เมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก 2025 "สิงคโปร์" ยังครองแชมป์เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน เอาชนะ "ลอนดอน" และ "ฮ่องกง"

ตามรายงาน Julius Baer Global Wealth and Lifestyle 2025 เมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก สำหรับผู้มีทรัพย์สินสูง (HNWIs) ที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ยังคงเป็น "สิงคโปร์" เช่นเดิม

สิงคโปร์ยังคงครองอันดับ 1 ในปี 2023 และ 2024 เช่นเดียวกัน ขณะที่ เซี่ยงไฮ้ เป็นแชมป์ในปี 2021 และ 2022

 

ตามรายงานระบุว่า ลอนดอน ซึ่งเลื่อนขึ้นมาอันดับ 2 ตามด้วย ฮ่องกง ที่ร่วงลงมาเป็นอันดับ 3 

10 เมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก 2025

  • สิงคโปร์
  • ลอนดอน
  • ฮ่องกง
  • โมนาโก
  • ซูริก
  • เซี่ยงไฮ้
  • ดูไบ
  • นิวยอร์ก
  • ปารีส
  • มิลาน
  • รายงานยังเน้นว่า แม้ว่าสิงคโปร์จะครองอันดับ 1 แต่ราคาสินค้าโดยเฉลี่ยในประเทศเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย 0.2% ในสกุลเงินท้องถิ่น

    อย่างไรก็ตาม สินค้าบางรายการก็มีราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น

    • เที่ยวบินชั้นธุรกิจ: เพิ่มขึ้น 17%
    • ค่าเล่าเรียนโรงเรียนเอกชน: เพิ่มขึ้น 12.1%
    • ห้องสวีทในโรงแรม: เพิ่มขึ้น 10.3%

    นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังถูกยกให้เป็นเมืองที่มีค่าใช้จ่ายสูงสุดในการเป็นเจ้าของรถยนต์และกระเป๋าผู้หญิงอีกด้วย

    ทำไมสิงคโปร์ยังคงน่าสนใจ

    แม้จะมีค่าครองชีพสูง รายงานชี้ว่า ความน่าสนใจในการอยู่อาศัยในสิงคโปร์ยังคงไม่เสื่อมคลาย

    เหตุผลบางประการ ได้แก่

    • ความมั่นคงและปลอดภัย: เมืองนี้ได้รับความนิยมจากสถานการณ์ทางการเมืองที่มั่นคงและสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
    • บริการคุณภาพสูง: โดยเฉพาะการศึกษาและการดูแลสุขภาพ
    • การเชื่อมต่อระดับโลก: สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางการขนส่งที่สำคัญของโลก

    นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า 100% ของกลุ่มผู้มีทรัพย์สินสูงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกำลังดำเนินมาตรการเพื่อยืดอายุขัยอีกด้วย

    ด้วยเมืองในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) ติด 3 อันดับแรกถึง 2 แห่ง ทำให้ภูมิภาคนี้มีการลดลงของราคาสินค้าและบริการเฉลี่ยน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นในปีที่ผ่านมา

    นอกจากนี้ กลุ่มผู้มีทรัพย์สินสูงใน APAC ยังมีแนวโน้มเพิ่มการใช้จ่ายและการลงทุนมากขึ้นในปีที่ผ่านมา โดยมีถึง 68% ที่เพิ่มการลงทุน

    ที่น่าทึ่งกว่านั้น คือ ผู้มีทรัพย์สินสูงใน APAC ทั้งหมด 100% ที่ถูกสำรวจต่างก็มีมาตรการดูแลสุขภาพเพื่อยืดอายุขัย และมีถึง 21% ที่ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูง เช่น การบำบัดด้วยยีนหรือการแช่แข็งร่างกาย (cryogenic chambers)

    กลุ่มคนร่ำรวยใน APAC ยังมีความต้องการใช้จ่ายทั้งในประสบการณ์ชีวิต เช่น การท่องเที่ยว และการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยอีกด้วย

    วิธีการวิเคราะห์

    รายงานนี้ใช้วิธีการวิเคราะห์จาก 2 ส่วนหลัก ได้แก่ ดัชนีไลฟ์สไตล์ (Lifestyle Index) ซึ่งเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายของ “ตะกร้าสินค้าและบริการ” ที่กำหนดไว้ใน 25 เมืองใหญ่ทั่วโลก และแบบสำรวจไลฟ์สไตล์ (Lifestyle Survey) เพื่อเข้าใจพฤติกรรม ความสำคัญ และทัศนคติทางการเงินของกลุ่มคนร่ำรวย

    สำหรับดัชนีไลฟ์สไตล์ ตะกร้าสินค้าประกอบด้วยสินค้าอุปโภคบริโภค 11 รายการ และบริการ 9 รายการ ซึ่งสะท้อนการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นของกลุ่มคนมีทรัพย์สินสูง โดยราคาถูกคำนวณและถ่วงน้ำหนักด้วยอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยคิดเป็น 20% ของดัชนีทั้งหมด รถยนต์คิดเป็น 10% ส่วนอีก 18 รายการที่เหลือคิดเป็น 70% ของดัชนี ข้อมูลเหล่านี้ถูกรวบรวมโดยบริษัท Ipsos ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2024 ถึงมีนาคม 2025

    สำหรับแบบสำรวจไลฟ์สไตล์ ได้สัมภาษณ์กลุ่มคนมีทรัพย์สินสูง 360 คน ที่มีสินทรัพย์ในครัวเรือนมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การสำรวจนี้จัดขึ้นระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม 2025