8 อาหารที่(อาจ)ทำให้ "ง่วงนอนตลอดเวลา" กินแต่พอเหมาะ ไม่งั้นได้ไปแอบงีบแน่
คุณเคยรู้สึกง่วงนอนหลังจากกินข้าวหรือของว่างระหว่างวันไหม? แม้จะนอนหลับพักผ่อนเพียงพอ แต่กลับรู้สึกอ่อนเพลีย สมองตื้อ ไม่อยากลุกไปทำอะไรต่อ
หลายคนอาจมองข้ามว่า “อาหาร” ที่เรารับประทานเข้าไปในแต่ละวันอาจเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้รู้สึกง่วงโดยไม่รู้ตัว เพราะอาหารบางประเภทมีคุณสมบัติกระตุ้นให้เกิดความผ่อนคลายหรือรบกวนระบบย่อยอาหารจนทำให้สมองสั่งการให้ร่างกายเข้าสู่โหมดพัก ด้วยเหตุนี้เราจึงควรใส่ใจสิ่งที่เรากิน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ต้องการความตื่นตัว เช่น ตอนทำงานหรือเรียน
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ “8 อาหารยอดนิยมที่กินแล้วง่วง” พร้อมคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ว่าเหตุใดอาหารเหล่านี้จึงส่งผลต่อสมองและร่างกายของเราได้มากถึงเพียงนี้
1. กาแฟ ดื่มกาแฟตอนเช้าโดยที่กระเพาะอาหารยังว่าง อาจจะทำให้ง่วงได้ เพราะหลังจากดื่มกาแฟได้ 30 นาที กาเฟอีนจะเข้าไปในกระแสเลือดและไปที่สมองส่งผลให้ออกซิเจนที่ส่งไปยังสมองถูกสกัดกั้นแล้วความง่วงก็จะตามมา
2. กล้วย เป็นผลไม้ที่ให้พลังงานอย่างรวดเร็วช่วยสลายความเครียด ฮอร์โมนเซโรโทนินและนอร์เอพิเนฟรินจากกล้วยจะช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุข แต่ถ้ารับประทานกล้วยมากเกินไปจะทำให้เราเกียจคร้านและไม่อยากขยับเคลื่อนไหวร่างกาย
3. ช็อกโกแลต สาร Phenylethylamine ในช็อกโกแลตจะทำให้ง่วงนอน ดังนั้น ช็อกโกแลตจึงเปรียบเสมือนยาที่ช่วยให้นอนหลับและถ้าหากมีโกโก้ในปริมาณสูงก็จะทำให้รู้สึกมีความสุข
4. ครัวซองต์ หากรับประทานครัวซองต์ 2-3 ชิ้นจะรู้สึกง่วงนอน เพราะครัวซองต์มีปริมาณแป้งขัดขาวมากและอุดมไปด้วยไขมันอีกด้วย ซึ่งไขมันจำเป็นต้องใช้พลังงานในการย่อย ดังนั้น เมื่อรับประทานครัวซองต์เข้าไปร่างกายก็จะดึงเลือดจากสมองไปที่กระเพาะเป็นจำนวนมาก เมื่อสมองมีเลือดหล่อเลี้ยงไม่เพียงพอก็จะทำให้ง่วงนอน หากคุณต้องทำงานเร่งด่วนก็ควรรับประทานครัวซองต์ได้แค่ชิ้นเล็กๆสักชิ้นก็พอ
5. ขนมปังขาวและข้าวขาว อาหารทุกชนิดที่ทำมาจากแป้งขัดขาว เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะทำให้ง่วงเหตุผลก็คือ มันเป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดเร่งด่วนจึงทำให้ตับอ่อนต้องหลั่งอินซูลินออกมามาก จึงทำให้น้ำตาลในเลือดขึ้นสูงและทำให้ง่วงนอน
6. ถั่วเปลือกแข็ง มีกากใยอาหารมากซึ่งจะไปชะงักกระบวนการย่อยอาหารและยังถูกส่งต่อไปยังลำไส้ใหญ่โดยไม่ได้ย่อย และกระตุ้นแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ที่มีหน้าที่จัดการกับกากใยอาหาร ผลก็คือทำให้ท้องอืดเฟ้อและง่วงนอน โดยเฉพาะถ้ารับประทานถั่วผสมเกลือก็จะทำลายวิตามินบางชนิด เช่น วิตามินบี ซึ่งเป็นวิตามินที่ช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า
7. ของหวาน เช่น ขนมหวาน เค้ก คุกกี้ เครื่องดื่มหวานๆ น้ำตาลทำให้ง่วงนอนและยังเป็นตัวแย่งวิตามินบีไปจากร่างกายเราด้วย เช่น วิตามินบี 1, บี 3, บี 6 และกรดโฟลิก และเมื่อร่างกายขาดแคลนวิตามินดังกล่าวก็จะทำให้เรี่ยวแรงถดถอยจึงส่งผลให้รู้สึกง่วง
8. ผลิตภัณฑ์นมหรือโยเกิร์ต เป็นอาหารที่มีประโยชน์ แต่ถ้ารับประทานโยเกิร์ตเข้าไปมากก็จะทำให้ร่างกายได้รับแคลเซียมและโปรตีน แต่ในขณะเดียวกันโปรตีนที่ว่านี้ก็จะแยกกรดอะมิโนจากร่างกายซึ่งจะส่งผลให้มีกรดมากเกินในร่างกายและทำให้ง่วงตลอดเวลา
บทสรุป
แม้อาหารบางชนิดจะให้พลังงานและประโยชน์ต่อร่างกาย แต่หากรับประทานในเวลาหรือปริมาณที่ไม่เหมาะสม ก็อาจส่งผลให้ร่างกายรู้สึกง่วง ซึม หรือขาดสมาธิได้ เช่น อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง ไขมันมาก หรือมีสารที่กระตุ้นการหลั่งเมลาโทนินและเซโรโทนิน อาจเหมาะกับช่วงก่อนนอน แต่ไม่เหมาะในเวลาที่คุณต้องใช้สมองหรือพลังงาน
หากคุณต้องการมีพลังงานสดชื่นตลอดวัน ควรเลือกอาหารที่ช่วยกระตุ้นระบบประสาท เช่น โปรตีนไม่ติดมัน ผักใบเขียว ธัญพืชเต็มเมล็ด และดื่มน้ำให้เพียงพอ ควบคู่กับการพักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละคืน
สุดท้าย อย่าลืมว่า “อาหาร” คือทั้งพลังงานและยาที่มีผลต่อร่างกายอย่างมหาศาล การเลือกกินอย่างมีสติจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม