
เปิดผลวิจัย ทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ พนักงานมีความสุขขึ้น ประสิทธิภาพการทำงานไม่ลด
ผลวิจัย ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ พนักงานมีความสุขขึ้นจริง ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดภาวะหมดไฟ
หลายประเทศทั่วโลกได้ใช้ระบบทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์มาอย่างยาวนาน แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีบางประเทศเริ่มพิจารณาปรับเปลี่ยนไปใช้ระบบทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ เช่น ญี่ปุ่นที่มีบางบริษัทเริ่มทดสอบแนวทางนี้แล้ว
ล่าสุดมีงานวิจัยขนาดใหญ่จาก Boston College สหรัฐอเมริกา เผยผลการทดลองที่ครอบคลุมหลายประเทศและหลายกลุ่มอาชีพ พบว่า พนักงานที่ทำงานเพียง 4 วันต่อสัปดาห์ มีความสุขมากขึ้น สุขภาพจิตดีขึ้น และประสิทธิภาพการทำงานไม่ได้ลดลง
รายละเอียดงานวิจัย
งานวิจัยนี้ครอบคลุม 6 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ และไอร์แลนด์ มีบริษัทเข้าร่วมทั้งหมด 141 แห่ง และพนักงานกว่า 2,800 คน
รูปแบบการทดลอง
พนักงานถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม:
-
กลุ่มทดลอง: ทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ ลดชั่วโมงทำงานจาก 39 เหลือ 34 ชั่วโมง โดยไม่ลดเงินเดือน
-
กลุ่มควบคุม: ทำงานแบบเดิม 5 วัน/สัปดาห์ ชั่วโมงทำงานเฉลี่ย 39–40 ชั่วโมง
ผลลัพธ์ที่น่าสนใจ
-
พนักงานกลุ่มทดลองมีความสุขเพิ่มขึ้น และรายงานว่ารู้สึกพึงพอใจกับชีวิตการทำงานมากขึ้น
-
ความเครียดและความเหนื่อยล้าลดลง อย่างมีนัยสำคัญ
-
ประสิทธิภาพการทำงานไม่ลดลง แม้ทำงานน้อยลง โดยบริษัทส่วนใหญ่ระบุว่า พนักงานสามารถจัดการเวลาได้ดีขึ้น และใช้เวลาน้อยลงกับการประชุมที่ไม่จำเป็น
บทสรุปจากผู้เชี่ยวชาญ
ผู้วิจัยระบุว่า โมเดลการทำงาน 4 วัน ไม่ใช่แค่การลดเวลาทำงาน แต่คือการปรับปรุงกระบวนการทำงานทั้งระบบ เช่น ลดประชุมที่ไม่มีประโยชน์ ใช้เทคโนโลยีช่วยสนับสนุน และให้อำนาจพนักงานบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข้อพิจารณา
แม้ผลลัพธ์จะเป็นบวก แต่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หากองค์กรใดต้องการนำรูปแบบนี้มาใช้ ต้องวางระบบสนับสนุนอย่างรอบด้าน เช่น การวางแผนงานที่ชัดเจน การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และการสนับสนุนด้านจิตใจแก่พนักงาน
สรุปภาพรวม
งานวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่า การทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ โดยยังได้รับเงินเดือนเต็ม สามารถ:
-
ลดภาวะหมดไฟ
-
เพิ่มความสุขและความพึงพอใจในการทำงาน
-
ปรับปรุงสุขภาพทั้งกายและใจ
-
พนักงานเกือบครึ่งรู้สึกว่ามีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
-
บริษัทส่วนใหญ่เลือกดำเนินระบบนี้ต่อไปหลังทดลอง