เนื้อหาในหมวด ข่าว

ผปค.อย่าเพิ่งขวาง! เว็บนอกเปิด 5 สาขาแรงยุค AI ไม่ต้องเก่งโค้ดก็รุ่ง เงินเดือนดี มีงานรองรับ

ผปค.อย่าเพิ่งขวาง! เว็บนอกเปิด 5 สาขาแรงยุค AI ไม่ต้องเก่งโค้ดก็รุ่ง เงินเดือนดี มีงานรองรับ

ผู้ปกครองควรรู้! อนาคตใหม่ ไม่ได้มีแค่โปรแกรมเมอร์ เปิด 5 สาขาเรียนสาย “ฉลาดเลือก” เรียนง่ายกว่าเทคโนฯ แต่รายได้พุ่งแรงยุค AI

ในยุคที่โลกขับเคลื่อนด้วย AI, หุ่นยนต์ และ Big Data การเลือกสาขาเรียนที่ “ใช่” ไม่ใช่แค่เรื่องของความชอบอีกต่อไป แต่เป็นกลยุทธ์สู่อนาคตที่มั่นคง หลายคนอาจคิดว่ามีแค่สายเทคโนโลยีอย่าง วิทยาการคอมพิวเตอร์ หรือวิศวกรรมซอฟต์แวร์เท่านั้นที่รุ่ง แต่ความจริงมีสาขาอื่นที่แม้จะไม่ใช่ “สายตรงเทคโนโลยี” แต่กลับได้อานิสงส์เต็มๆ จากกระแส AI

ตามรายงานของเว็บไซต์ข่าว SOHA ระบุถึง 5 สาขาวิชาที่กำลัง “ได้แรงหนุน” จาก AI และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งนอกจากมีแนวโน้มเติบโตสูงแล้ว ยังเปิดโอกาสให้นักเรียนสายศิลป์-สายบริหารเข้าถึงง่ายกว่าสายวิศวกรรมอีกด้วย

1. โลจิสติกส์และการจัดการโซ่อุปทาน

จากภาพจำเดิม ๆ อย่างโกดัง รถบรรทุก และคอนเทนเนอร์ ปัจจุบัน AI และ Big Data ได้เปลี่ยนวงการนี้ไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งการคาดการณ์ความต้องการสินค้า การติดตามสินค้าแบบเรียลไทม์ การจัดการสต๊อกอัตโนมัติ ไปจนถึงการใช้โดรนส่งของและหุ่นยนต์คลังสินค้า

ทำไมถึงน่าเรียน?

  • ไม่ต้องมีพื้นฐานเขียนโปรแกรม

  • เงินเดือนเพิ่มตามทักษะการบริหารและการใช้เทคโนโลยี

  • โอกาสทำงานกับองค์กรระดับโลกและข้ามประเทศสูง

2. การตลาดดิจิทัล (Digital Marketing)

จากเดิมที่เน้นแค่ไอเดียสร้างสรรค์ ปัจจุบันนักการตลาดต้องเข้าใจการวิเคราะห์ข้อมูล และอัลกอริธึมของแพลตฟอร์ม เช่น Google, TikTok, Facebook เพราะทุกโฆษณาและคอนเทนต์ถูกขับเคลื่อนด้วย AI

ทำไมถึงน่าเรียน?

  • สายศิลป์-สาย D เรียนได้ง่าย

  • เรียนระยะสั้นได้ เริ่มทำงานตั้งแต่ปี 1

  • รายได้ดี หากชำนาญด้าน performance marketing, SEO/SEM

3. ภาษาศาสตร์คอมพิวเตอร์ (Computational Linguistics)

เบื้องหลัง ChatGPT, Google Translate, Siri และ Alexa ล้วนมาจากการพัฒนา NLP (Natural Language Processing) หรือ AI ด้านภาษา สาขานี้ผสมผสานระหว่างภาษาศาสตร์กับวิทยาการคอมพิวเตอร์

ทำไมถึงน่าเรียน?

  • เหมาะกับคนรักภาษา ไม่ต้องเก่งเลขมาก

  • โอกาสสูงในบริษัทเทคโนโลยีและบริการลูกค้า

  • รายได้สูงในสายงานที่เกี่ยวข้องกับ AI

4. ออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้ (UX/UI Design)

ไม่ว่าจะเป็นแอป AI, เว็บไซต์ หรือแม้แต่ระบบหุ่นยนต์อัจฉริยะ ล้วนต้องการ "อินเทอร์เฟซ" ที่ใช้งานง่ายและเข้าใจคน UX/UI จึงเป็นสะพานเชื่อมคนกับเทคโนโลยี

ทำไมถึงน่าเรียน?

  • ไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดหนัก

  • รับงานฟรีแลนซ์หรือส่งออกงานไปต่างประเทศได้ง่าย

  • ต้องใช้ทั้งเซนส์ความงามและการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้

5. จิตวิทยา

ฟังดูอาจไม่เกี่ยวกับเทคโนโลยี แต่จริง ๆ แล้ว "จิตวิทยา + AI" คือสูตรลับของการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้ การออกแบบเนื้อหาส่วนบุคคล ไปจนถึงการสร้าง chatbot เพื่อดูแลสุขภาพจิต

ทำไมถึงน่าเรียน?

  • ยังคงเป็นสายมนุษย์ศาสตร์ แต่ใช้งานได้จริงมากขึ้น

  • สามารถต่อยอดทั้งงานวิจัย งานปรึกษา หรือพัฒนาเทคโนโลยี

  • คนที่เข้าใจจิตใจมนุษย์และใช้เทคโนโลยีได้จะเป็นที่ต้องการสูง

เลือกเรียนให้ถูกจังหวะ ยุค AI ไม่จำเป็นต้องเป็นโปรแกรมเมอร์เสมอไป ในยุคที่ทั้งโลกพูดถึง AI และข้อมูลขนาดใหญ่ ไม่ใช่ทุกคนต้องเป็นวิศวกรหรือโปรแกรมเมอร์ แค่รู้จัก "เลือกเรียนให้ตรงกระแส" และใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือ สาขาที่ดูเหมือน “เบา” อาจกลับกลายเป็นใบเบิกทางสู่อนาคตที่สดใสกว่าเดิมก็ได้