
วิจัยพบ “ยาอายุวัฒนะ” อยู่ในเห็ดวิเศษ ยืดอายุเซลล์มนุษย์ 50% แต่หลายประเทศห้ามใช้!!!
สารประกอบที่ทำให้เห็ดวิเศษ (Magic Mushrooms) เป็นสิ่งที่น่าหวั่นเกรง กลับมีแนวโน้มกลายเป็น "ยาอายุวัฒนะ" หากใช้อย่างถูกต้อง ตามงานวิจัยใหม่ของสหรัฐอเมริกา
ในงานวิจัยที่เพิ่งเผยแพร่ในวารสาร Aging ของ Nature Partner Journals ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเอมอรี (Emory University) สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าไซโลซิน (psilocin) ซึ่งเป็นสารเมตาโบไลต์ที่ร่างกายสร้างขึ้นหลังการบริโภคไซโลไซบิน (psilocybin) อาจเป็น "ยาอายุวัฒนะ" จากการทดลองพบว่าสามารถเพิ่มอายุของเซลล์ผิวหนังและเซลล์ปอดของมนุษย์ได้มากกว่า 50%
น่าสนใจคือ ไซโลไซบินเป็นสารที่ขึ้นชื่อว่าอันตราย เพราะเป็นสารก่อภาพหลอน (hallucinogen) เมื่อบริโภคเห็ดกลุ่มที่เรียกว่าเห็ดวิเศษ (Magic Mushrooms) แต่ทีมวิจัยจากสหรัฐยืนยันว่าหากนำมาใช้ในทางการแพทย์อย่างถูกต้อง อาจให้ผลดีอย่างคาดไม่ถึง
“เห็ดวิเศษ” หรือ Magic Mushrooms คือชื่อเรียกรวมของเห็ดที่มีสารไซโลไซบิน (Psilocybin) ซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นไซโลซิน (Psilocin) ที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาท ทำให้ผู้บริโภครู้สึกเคลิบเคลิ้ม เห็นภาพหลอน หรือมีประสบการณ์ทางจิตวิญญาณ เห็ดวิเศษมีหลากหลายสายพันธุ์ที่พบได้ทั่วโลก เช่น Psilocybe cubensis, Psilocybe semilanceata, และ Panaeolus cyanescens โดยบางชนิดเคยถูกใช้ในพิธีกรรมของชนเผ่าโบราณเพื่อการบำบัดและติดต่อทางจิตวิญญาณ
อย่างไรก็ตาม ในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทย สารไซโลไซบินยังถือเป็นยาเสพติดให้โทษ และการใช้โดยไม่ควบคุมอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพจิตอย่างรุนแรง
- เอาให้ชัด! สตรอเบอร์รี่ “ยาวิเศษ” กินดีต่อสมอง-หัวใจ ของคนวัย 65+ จริงหรือ?
- เลี่ยงได้เลี่ยง 3 มื้อเย็น “ทำลายตับ” ไม่น้อยหน้าแอลกอฮอล์ แต่กลับถูกใจใครหลายคน!
ตามรายงานของ SciTech Daily ทีมวิจัยยังได้ทดลองผลระยะยาวของไซโลไซบินในหนูทดลองอายุ 19 เดือน (เทียบเท่ามนุษย์อายุ 60–65 ปี) หนูได้รับไซโลไซบินในขนาดต่ำเริ่มต้น 5 มิลลิกรัม และต่อมารับขนาด 15 มิลลิกรัมต่อเดือนเป็นเวลา 10 เดือน พบว่า อัตราการรอดชีวิตสูงกว่ากลุ่มควบคุมถึง 30%
นอกจากนี้ หนูที่ได้รับ “ยาอายุวัฒนะ” นี้ ยังแสดงอาการสุขภาพดีขึ้น เช่น ขนหนาขึ้น สีขนดีขึ้น ขนขาวลดลง และมีแนวโน้มงอกใหม่ ซึ่งสื่อถึงการย้อนวัยหรือชะลอวัยอย่างมีนัยสำคัญ แม้โดยทั่วไปไซโลไซบินจะถูกศึกษาในเชิงจิตวิทยา แต่งานวิจัยใหม่นี้ชี้ให้เห็นว่ามันมีผลกระทบต่อชีววิทยาของความชราอย่างชัดเจน
สารนี้ดูเหมือนจะลดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน (oxidative stress) เพิ่มกลไกซ่อมแซมเซลล์ และช่วยคงความยาวของ เทโลเมียร์ (telomere) ซึ่งเป็นโครงสร้างที่ปลายโครโมโซม มีหน้าที่ป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ และเกี่ยวข้องกับโรคต่างๆ เช่น มะเร็ง โรคทางระบบประสาท และโรคหัวใจ
กระบวนการระดับเซลล์เหล่านี้มีบทบาทสำคัญทั้งในความชราและการเกิดโรค ดังนั้น ทีมวิจัยจึงสรุปว่า ไซโลไซบินเป็นความหวังในการพัฒนาการบำบัดต้านความชราแบบก้าวกระโดด ซึ่งอาจช่วยให้ผู้สูงอายุมีอายุยืนยาวขึ้นอย่างมีสุขภาพดี คือยืนยาวโดยไม่ต้องทุกข์ทรมานจากโรคร้าย