
คำเตือนหัวใจล้มเหลว สังเกตได้จาก "ข้อเท้า" สัญญาณเตือนที่หลายคนมองข้าม
สัญญาณเริ่มต้นของภาวะหัวใจล้มเหลว สังเกตได้จาก "ข้อเท้า" อาการเล็กๆ ที่หลายคนมองข้าม
อาการบวมที่ข้อเท้าหรือขาอาจดูเหมือนไม่รุนแรง แต่ในความเป็นจริง นี่อาจเป็น สัญญาณเริ่มต้นของภาวะหัวใจล้มเหลว (Heart Failure) ซึ่งเป็นภาวะเรื้อรังที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
ภาวะหัวใจล้มเหลวคืออะไร?
ภาวะหัวใจล้มเหลวเกิดขึ้นเมื่อหัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมักเกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจที่อ่อนแรงหรือแข็งเกินไป ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดไม่สามารถตอบสนองความต้องการของร่างกายได้อย่างเพียงพอ
-
ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
-
แต่สามารถควบคุมอาการได้นานหลายปีด้วยการรักษาที่เหมาะสม
คำเตือนจากมูลนิธิหัวใจแห่งสหราชอาณาจักร (British Heart Foundation - BHF)
BHF เตือนว่า: “ข้อเท้าหรือขาที่บวมอาจเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนทั่วไปของภาวะหัวใจล้มเหลว แม้จะไม่ใช่สัญญาณที่อยู่ในระบบการจัดระดับ NYHA ก็ตาม”
การจัดระดับความรุนแรงของภาวะหัวใจล้มเหลว
ใช้ระบบ New York Heart Association (NYHA) Classification แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ขึ้นอยู่กับความสามารถในการทำกิจกรรมทางกาย และอาการที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวัน
สัญญาณเตือนสำคัญของภาวะหัวใจล้มเหลว
-
หายใจลำบาก โดยเฉพาะหลังออกแรง หรือขณะนอนราบ
-
เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
-
หัวใจเต้นผิดจังหวะ
-
ข้อเท้า ขา หรือเท้าบวมจากการสะสมของของเหลว (Oedema)
ลักษณะของอาการบวม (Oedema)
-
ผิวหนังตึง มันเงา หรือเปลี่ยนสี
-
เดินลำบาก รู้สึกไม่สบาย
-
เมื่อกดที่ผิวหนังจะเห็นรอยบุ๋ม
ทำไมภาวะหัวใจล้มเหลวจึงทำให้บวม?
ตามข้อมูลจาก Medical News Today: ความล้มเหลวของหัวใจทำให้เกิดความดันสูงในหลอดเลือด ส่งผลให้ของเหลวซึมออกจากหลอดเลือดไปยังเนื้อเยื่อรอบข้าง จนเกิดอาการบวม
อาการอื่นที่ควรระวัง
-
หายใจมีเสียงหวีด
-
ไอเรื้อรัง โดยเฉพาะเวลากลางคืน
-
เวียนศีรษะ เป็นลมง่าย
-
เบื่ออาหาร ท้องอืด น้ำหนักเปลี่ยนแปลง
-
ความสับสน ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
-
เข้าห้องน้ำกลางคืนบ่อยขึ้น
-
ปัสสาวะปนเลือด (ในกรณีรุนแรงจากไตเสียหาย)
ปัญหาทางจิตใจที่อาจเกิดร่วม
ผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลวจำนวนมากมีอาการทางจิตใจ เช่น:
-
โรคซึมเศร้า
-
ความวิตกกังวล
NHS แนะนำให้พบแพทย์หาก อาการต่าง ๆ เหล่านี้เกิดขึ้นต่อเนื่อง อาการเริ่มแย่ลงอย่างช้า ๆ หรือมีอาการใหม่ที่น่ากังวล
คำเตือนเร่งด่วน
“หากคุณมีอาการเฉียบพลันหรือรุนแรงมาก เช่น แน่นหน้าอกหรือหายใจไม่ออกเฉียบพลัน ให้โทร 999 หรือไปยังแผนกฉุกเฉินทันที”
หากคุณสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ในตนเองหรือคนใกล้ตัว อย่ารอช้า ควรรีบพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้น เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงในอนาคต.