
อ่านไม่ผิด! เด็กชายวัย 13 ไขมันพอกตับเพราะ "ติดโทรศัพท์" โรคที่พ่อแม่อาจคิดไม่ถึง
เด็กชายวัย 13 ปีป่วย “ไขมันพอกตับ” เพราะติดเล่นมือถือ แพทย์เตือนโรคนี้ไม่ได้เกิดเฉพาะในผู้ใหญ่ เด็กก็เสี่ยงได้โดยไม่รู้ตัว!
ผู้ปกครองจำนวนมากยังคงคิดว่า “ไขมันพอกตับเป็นโรคของผู้ใหญ่” แต่ในความเป็นจริง โรคนี้กำลังมีแนวโน้มพบผู้ป่วยที่ “เด็กลง” อย่างต่อเนื่อง กรณีตัวอย่างล่าสุดเกิดขึ้นที่ไต้หวัน เมื่อเด็กชายวัย 13 ปี ใช้เวลาในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนวันละกว่า 10 ชั่วโมง ในการเล่นเกมและดูวิดีโอบนโทรศัพท์มือถือ จนกระทั่งถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคไขมันพอกตับระดับปานกลาง
หมอหวัง ลู่ถิง (Wang Luding) ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อมไร้ท่อและลดน้ำหนักในเด็ก ซึ่งเป็นผู้ทำการรักษาโดยตรง เปิดเผยว่าเด็กชายมีส่วนสูง 160 ซม. น้ำหนัก 72 กก. และเกือบทุกช่วงเวลานอกจากเวลานอน เขาจะใช้เวลาอยู่กับหน้าจอมือถือ ผลการตรวจพบว่าค่าเอนไซม์ตับ ALT พุ่งสูงถึง 72 U/L (ค่าปกติไม่ควรเกิน 45), ค่าไตรกลีเซอไรด์อยู่ที่ 160 mg/dL และยังเริ่มมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งเป็นสัญญาณของความผิดปกติในการเผาผลาญ
หมอหวังระบุด้วยว่า นี่ไม่ใช่กรณีแรก งานวิจัยล่าสุดชี้ว่า เด็กและวัยรุ่นที่ใช้หน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เกินวันละ 5 ชั่วโมง มีความเสี่ยงเป็นไขมันพอกตับมากกว่ากลุ่มที่ใช้น้อยกว่าสองเท่า! เหตุเพราะพฤติกรรม “นั่งมาก-กินจุบจิบ-ไม่ขยับตัว” กลายเป็นรูปแบบชีวิตของเด็กยุคใหม่โดยไม่รู้ตัว
- ช็อกทั้งบ้าน! ลูกสาว 1 ขวบ ตัวเขียว-เลือดดำ หลังกิน "ซุป" รู้วิธีปรุงหมอส่ายหัว
- ต่างชาติเผย "อาชีพของพ่อแม่" ที่มีลูกป่วยซึมเศร้ามากสุด ผู้เชี่ยวชาญยังตกใจกับ “อันดับแรก”
5 คำแนะนำจากแพทย์เพื่อป้องกันไขมันพอกตับในเด็ก
สรุปคำเตือนจากแพทย์คือ ไขมันพอกตับในเด็กแม้ไม่แสดงอาการ แต่หากปล่อยไว้นานอาจพัฒนาเป็นตับอักเสบ, พังผืดที่ตับ หรือแม้แต่ตับแข็งได้ในอนาคต เด็กที่ “ติดจอ” ขาดการเคลื่อนไหว และมีน้ำหนักเกิน ล้วนอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และพบแพทย์เพื่อประเมินสุขภาพอย่างต่อเนื่อง