
จะเกิดอะไรขึ้น? หากมีคนถูก "ฆาตกรรม" บนเรือสำราญ สื่อนอกเผยขั้นตอนการรับมือ
แม้อาชญากรรมบนเรือสำราญจะเกิดขึ้นไม่บ่อย แต่หลายคนก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ถ้าเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดอย่างการฆาตกรรมเกิดขึ้นจริง จะมีขั้นตอนรับมืออย่างไรบ้าง
แม้อาชญากรรมบนเรือสำราญจะเกิดไม่บ่อยนัก แต่ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาได้มีเหตุการณ์หลายกรณีเกิดขึ้นบนเรือ ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า หากเกิดอาชญากรรมร้ายแรงกลางทะเลขึ้นมาจริง ๆ จะมีขั้นตอนอย่างไร?
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ชายคนหนึ่งถูกจับกุมในข้อหาต้องสงสัยฆาตกรรมระหว่างล่องเรือท่องเที่ยวระยะสั้นบนเรือ MSC Virtuosa และเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีรายงานว่า ลูกเรือคนหนึ่งของเรือ Icon of the Seas ของ Royal Caribbean เสียชีวิตหลังพลัดตกจากเรือ โดยก่อนหน้านั้นถูกกล่าวหาว่าได้แทงลูกเรืออีกคน
แต่หากเกิดเหตุฆาตกรรมบนเรือสำราญขึ้นจริง ๆ จะเกิดอะไรตามมา?
ความจริงก็คือ กระบวนการจัดการเรื่องนี้อาจซับซ้อนพอสมควร และขึ้นอยู่กับว่าเรือลำนั้นอยู่ในพื้นที่ใดของโลกในขณะเกิดเหตุ
เมื่อเรืออยู่ในน่านน้ำสากลหรือจอดเทียบท่าในประเทศอื่น กฎหมายที่ใช้จะขึ้นอยู่กับตำแหน่งของเรือในขณะนั้น แต่สิ่งแรกที่ต้องทำเสมอคือให้ทีมรักษาความปลอดภัยบนเรือเข้าตรวจสอบก่อน เพราะพวกเขาจะเป็นผู้ไปถึงที่เกิดเหตุเป็นคนแรก
หากมีเหตุฆาตกรรมหรือการทำร้ายร่างกาย ทีมรักษาความปลอดภัยบนเรือจะเป็นผู้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย และนำไปกักขังไว้ใน “ห้องขัง” หรือที่เรียกกันว่า brig ซึ่งเป็นห้องควบคุมผู้กระทำผิดชั่วคราวบนเรือนั่นเอง
ในขณะเดียวกัน ทีมแพทย์บนเรือจะเข้าช่วยเหลือเหยื่อทันที ส่วนบริเวณที่เกิดเหตุจะถูกปิดไม่ให้ผู้โดยสารเข้าใกล้ เพื่อให้สามารถดำเนินการสอบสวนได้อย่างเต็มที่
ในระหว่างที่เรือยังอยู่กลางทะเล กัปตันจะมีอำนาจสูงสุดในการควบคุมทุกอย่างบนเรือ ดังนั้นเขาจะได้รับรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเป็นผู้ประสานงานกับสำนักงานใหญ่ของสายการเดินเรือ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
ต้องระบุว่าอยู่ภายใต้เขตอำนาจของใคร
เพื่อให้สามารถจัดการเหตุการณ์ได้อย่างถูกต้อง กัปตันและผู้บริหารสายการเดินเรือต้องพิจารณาว่าอาชญากรรมที่เกิดขึ้นอยู่ภายใต้เขตอำนาจของประเทศใด ซึ่งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
ประการแรก คือสถานที่เกิดเหตุ ว่าอยู่ในน่านน้ำของประเทศใดหรือในน่านน้ำสากล หากเกิดเหตุในน่านน้ำของสหรัฐอเมริกา FBI มักจะเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินคดี โดยไม่ขึ้นกับธงที่เรือใช้ (ซึ่งหมายถึงประเทศที่เรือจดทะเบียน)
แต่หากเกิดเหตุในน่านน้ำสากล ประเทศที่เรือจดทะเบียนไว้จะมีสิทธิ์ในการดำเนินคดีตามกฎหมายของตน
อีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องพิจารณาคือ สัญชาติของผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น หากเรือจดทะเบียนในสหราชอาณาจักรอยู่ในน่านน้ำสากล แต่ผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบเป็นชาวฝรั่งเศส อาจต้องมีการร่วมมือกันระหว่างทางการของสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสในการสืบสวน
ในระหว่างนั้น พนักงานบนเรือต้องมีหน้าที่ปกป้องพื้นที่เกิดเหตุ แยกพยานและผู้ต้องสงสัยออกจากกัน รวมถึงค้นหาและเก็บหลักฐาน เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิดไว้อย่างรัดกุม
เรือสำราญจะเปลี่ยนเส้นทางหรือไม่?
การตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนเส้นทางเรือสำราญหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาหลายปัจจัย โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุร้ายแรงบนเรือ เช่น การฆาตกรรม
ในกรณีที่สงสัยว่าเกิดการฆาตกรรม จะขึ้นอยู่กับว่า ณ เวลานั้นมีท่าเรือที่สามารถจอดได้หรือไม่ และที่สำคัญที่สุดคือ มีภัยคุกคามต่อผู้โดยสารและลูกเรือที่เหลืออยู่หรือเปล่า
เรือมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนเส้นทาง หากสถานการณ์นั้นดูน่าสงสัยและต้องการการสอบสวนเร่งด่วน โดยเฉพาะหากมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพร้อมรับเรื่องที่ท่าเรือใกล้เคียง
แต่หากไม่มีอันตรายเร่งด่วนต่อบุคคลอื่น เรืออยู่ใกล้ท่าเรือต่อไปอยู่แล้ว หรือเป็นไปตามนโยบายของสายการเดินเรือหรือตำรวจที่แนะนำว่าไม่ควรเปลี่ยนเส้นทาง เรือก็อาจเดินทางต่อไปตามกำหนดเดิม