
มติศาลรัฐธรรมนูญ 5 ต่อ 4 ขยายเวลา "นายกฯ อิ๊งค์" ชี้แจงคลิปเสียงคุย "ฮุน เซน"
มติศาลรัฐธรรมนูญ 5 ต่อ 4 ขยายเวลา "นายกฯ อิ๊งค์" ชี้แจงคลิปเสียงคุย "ฮุน เซน" ให้ถึงแค่ 4 ส.ค. ย้ำเป็นครั้งสุดท้าย
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคดีที่ 18/2568 กรณีประธานวุฒิสภายื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่
กรณีนี้ สมาชิกวุฒิสภาจำนวน 36 คน ได้เข้าชื่อเสนอคำร้อง โดยอ้างถึงคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธารกับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ซึ่งเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 โดยผู้ถูกร้องแถลงข่าวยอมรับว่า เป็นเสียงตนเองจริง
แม้ผู้ถูกร้องจะระบุในภายหลังว่า เป็นการพูดคุยส่วนตัวเพื่อรักษาความสงบและอธิปไตยของไทย แต่ฝ่ายผู้ร้องเห็นว่า ผู้ถูกร้องแสดงออกถึงความนิ่งเฉย ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ควรในฐานะนายกรัฐมนตรี ปล่อยให้มีการดำเนินการต่างประเทศโดยไม่แสดงจุดยืนชัดเจน และมีลักษณะ “เป็นฝั่งเดียวกับกัมพูชา” โดยเห็นว่าแม่ทัพภาคที่ 2 เป็น “ฝ่ายตรงข้าม” ซึ่งสะท้อนถึงความไม่เป็นกลาง
ฝ่ายผู้ร้องจึงเห็นว่า ผู้ถูกร้องขาดความซื่อสัตย์สุจริตและฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง ขอให้ศาลวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ และขอให้ศาลมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย
มติศาลรัฐธรรมนูญ 5 ต่อ 4
เห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงมีคำสั่งให้ ขยายเวลาการยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาไปจนถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2568 เป็นครั้งสุดท้าย ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 31
ตุลาการเสียงข้างน้อย 4 คนที่ไม่เห็นชอบ ได้แก่
-
นายปัญญา อุดชาชน
-
นายวิรุฬห์ แสงเทียน
-
นายจิรนิติ หะวานนท์
-
นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์
หากผู้ถูกร้องไม่ยื่นคำชี้แจงภายในกำหนด ให้ถือว่าไม่ติดใจจะชี้แจงข้อกล่าวหา และศาลจะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ตามมาตรา 54 วรรคสาม ของ พ.ร.ป. ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561