
รู้จักกับ "Wagner Group" บริษัททหารรับจ้างชื่อดังที่สุดในโลก ที่มีข่าวว่ากัมพูชาจ้างมาช่วยรบกับไทย
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “Wagner Group” (วากเนอร์ กรุ๊ป) ได้กลายเป็นชื่อที่ทั่วโลกจับตามองในฐานะหนึ่งในบริษัททหารรับจ้างที่ทรงอิทธิพลและลึกลับที่สุดในโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีข่าวลือว่ารัฐบาลกัมพูชาอาจจ้างกลุ่มนี้เข้ามาช่วยในกรณีพิพาทชายแดนกับไทย ทำให้ผู้คนหันมาให้ความสนใจบทบาทของ Wagner Group ในเวทีความขัดแย้งอีกครั้ง
Wagner Group ไม่ใช่ชื่อใหม่ในสนามรบระหว่างประเทศ พวกเขาปรากฏตัวในหลายภูมิภาคทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ยูเครน ซีเรีย หรือแอฟริกา โดยแต่ละครั้งมักจะมีความเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ของรัสเซีย แม้ทางการรัสเซียจะปฏิเสธความเชื่อมโยงโดยตรง แต่หลักฐานมากมายชี้ให้เห็นความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดระหว่าง Wagner กับรัฐรัสเซีย
กลุ่ม Wagner ถูกเชื่อว่าก่อตั้งขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 2010 โดย ดมิทรี อุตคิน (Dmitry Utkin) อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองทางทหาร GRU ของรัสเซีย ชื่อ “Wagner” มาจากชื่อเรียกขานทางวิทยุของ อุตคิน ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากคีตกวีเยอรมนี ริชาร์ด วากเนอร์ ที่เป็นที่ชื่นชอบของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ นอกจากนี้ เยฟเกนี ปริโกชิน (Yevgeny Prigozhin) นักธุรกิจชื่อดังซึ่งมีฉายาว่า “เชฟของปูติน” ก็เป็นบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มนี้
แม้จะไม่ใช่องค์กรที่จดทะเบียนตามกฎหมายในหลายประเทศ แต่ Wagner Group ดำเนินงานอย่างเป็นระบบ มีการฝึกอบรมทหาร จัดหาอาวุธ และดำเนินภารกิจทางทหารให้กับรัฐบาลหรือกลุ่มติดอาวุธในหลายพื้นที่ โดยได้รับค่าตอบแทนทั้งในรูปเงินสดและสิทธิ์ในการเข้าถึงทรัพยากร เช่น น้ำมัน เพชร หรือทองคำ
ข้อมูลจากแหล่งข่าวในยุโรประบุว่า ทหารรับจ้างระดับทั่วไปของ Wagner ได้รับค่าจ้างประมาณ 30,000–90,000 บาทต่อเดือน ขณะที่ทหารระดับสูงหรือปฏิบัติงานเสี่ยงภัย อาจได้รับมากถึง 450,000 บาท โดยค่าตอบแทนที่สูงกว่าทหารปกติ ทำให้ Wagner กลายเป็นที่ดึงดูดใจของอดีตทหารหรือบุคคลที่มองหาทางลัดในชีวิต
ชื่อของ Wagner กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นในช่วงสงครามยูเครน โดยเฉพาะการรบในภูมิภาคดอนบาส นอกจากนี้พวกเขายังมีบทบาทในซีเรียเพื่อสนับสนุนรัฐบาล บาชาร์ อัล อัสซาด และในแอฟริกา เช่น มาลี ซูดาน และสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ซึ่งส่วนใหญ่มาพร้อมกับข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง
ในปี 2023 วิกฤตครั้งใหญ่ของ Wagner เกิดขึ้น เมื่อเครื่องบินที่บรรทุกผู้นำกลุ่มอย่าง ปริโกชิน และ อุตคิน ตกใกล้มอสโก ทำให้ผู้นำระดับสูงทั้งหมดเสียชีวิต ทางการรัสเซียออกมาแถลงว่าพบชิ้นส่วนระเบิดในศพของผู้เสียชีวิต แต่ไม่ยืนยันสาเหตุอย่างเป็นทางการ ซึ่งเหตุการณ์นี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของกลุ่ม Wagner
หลังการเสียชีวิตของผู้นำ Wagner ทางรัฐบาลรัสเซียได้จัดตั้งหน่วยงานใหม่ในชื่อ “Africa Corps” เพื่อรับช่วงต่อภารกิจที่ Wagner เคยทำในทวีปแอฟริกา โดยเปลี่ยนจากบริษัทเอกชนที่คลุมเครือ มาเป็นหน่วยงานของรัฐอย่างเต็มตัว ภายใต้การควบคุมของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย
แม้จะเปลี่ยนชื่อเป็น Africa Corps แต่ปัญหายังคงอยู่เหมือนเดิมหรือหนักขึ้นกว่าเดิม มีรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง เช่น การสังหารพลเรือน การเผาหมู่บ้าน และการประหารชีวิตผู้บริสุทธิ์โดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะในประเทศอย่างมาลีและบูร์กินาฟาโซ
กรณีของกัมพูชา แม้จะมีข่าวลือและกระแสในโซเชียลมีเดียว่ากองทัพอาจว่าจ้าง Wagner เข้าร่วมปฏิบัติการชายแดนกับไทย แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้มายืนยัน แม้จะมีการพบเห็นอาวุธรัสเซีย เช่น เครื่องยิงจรวด BM-21 Grad ในมือทหารกัมพูชา ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชากับ Wagner
หากข่าวลือว่ากัมพูชาจ้างทหารรับจ้างต่างชาติเข้าร่วมรบเป็นจริง ย่อมสะท้อนถึงความอ่อนแอทางทหารภายในประเทศ และอาจเป็นสัญญาณว่ากัมพูชาพึ่งพารัสเซียมากขึ้นในด้านความมั่นคง ซึ่งอาจส่งผลต่อดุลอำนาจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในระยะยาว
นอกจากนี้ การนำทหารรับจ้างต่างชาติเข้ามาในความขัดแย้งระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ยังขัดต่อหลักการของอาเซียน ที่ยึดแนวทางการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี และอาจทำให้สถานการณ์ยิ่งทวีความตึงเครียด ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของทั้งภูมิภาค
ที่ผ่านมา ประเทศที่เคยใช้บริการ Wagner หรือหน่วยงานที่ต่อยอดจาก Wagner มักประสบปัญหาความรุนแรงที่ยืดเยื้อ ความวุ่นวายทางการเมือง และการพึ่งพาต่างชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งก่อให้เกิดคำถามว่าทหารรับจ้างคือคำตอบ หรือคือตัวเร่งของวิกฤตกันแน่
แม้ Wagner จะไม่อยู่ในรูปเดิมอีกต่อไป แต่บทบาทของบริษัททหารรับจ้างในศตวรรษที่ 21 ยังไม่จางหาย พวกเขากลายเป็นเครื่องมือทางภูมิรัฐศาสตร์ที่หลายประเทศใช้ในการแทรกแซงโดยไม่ต้องใช้กองทัพทางการ ซึ่งหากไม่ตรวจสอบอย่างรอบคอบ อาจนำมาซึ่งภัยคุกคามต่อสันติภาพระยะยาว