
อาหารโลว์แฟต ไขมัน 0% ผู้เชี่ยวชาญเตือนอาจเป็นกับดัก อยากผอมแต่อ้วนไม่รู้ตัว!
อาหารโลว์แฟต ที่มักเขียนว่า "ไขมัน 0%" ผู้เชี่ยวชาญเตือนอาจเป็นกับดักของคนอยากผอม ไขมันรอบเอวเพิ่มขึ้นแบบไม่รู้ตัว!
อาหารประเภท ไขมันต่ำ-ไขมัน 0% เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนักกลับออกมาเตือนว่า อาหารเหล่านี้อาจกลายเป็นตัวการเงียบ ที่ทำให้ไขมันหน้าท้องสะสมมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อแทนที่ไขมันด้วยน้ำตาลและแป้ง
“โลว์แฟต” แต่กลับอ้วนง่ายขึ้น
ศาสตราจารย์แฟรงคลิน โจเซฟ หัวหน้าคลินิกลดน้ำหนัก Dr Frank’s Weight Loss Clinic อธิบายว่า อาหารลดไขมันจำนวนมากมักเป็น “อาหารแปรรูปสูง” และมีน้ำตาลหรือแป้งสังเคราะห์เป็นส่วนประกอบเพื่อชดเชยรสชาติและเนื้อสัมผัสที่หายไปจากการตัดไขมันออก
“แค่เห็นคำว่า ‘low-fat’ ไม่ได้แปลว่าอาหารนั้นดีต่อการลดน้ำหนัก” ศ.แฟรงคลิน โจเซฟ
เขาเสริมว่า “ร่างกายต้องการไขมันเพื่อการควบคุมฮอร์โมนและความรู้สึกอิ่ม เมื่อเอาไขมันออกไปแล้วแทนที่ด้วยน้ำตาลหรือสารเติมแต่งต่างๆ มันจะกระตุ้นความอยากอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะรอบเอว”
อาหารไร้ไขมัน = น้ำตาลแฝง?
อาหาร “ไดเอต” หลายชนิดมักเติมสารอย่างมอลโตเด็กซ์ตริน กลูโคสไซรัป หรือแป้งดัดแปร ซึ่งทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลินพุ่งสูง ส่งผลให้ร่างกายสะสมไขมันมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง
ขณะนี้กระแสอาหาร “โลว์แฟต-ไฮคาร์บ” รวมถึง “Sugar Diets” กำลังเป็นที่นิยมในโซเชียลอย่าง TikTok และ YouTube แต่ ศ.โจเซฟเตือนว่า เทรนด์เหล่านี้อาจย้อนแย้งกับเป้าหมายการลดน้ำหนักของคุณ
“เราเห็นมาแล้วหลายสิบปีว่า อาหารโลว์แฟตมักทำให้คนรู้สึกหิวมากขึ้น”
“วันนี้เทรนด์ลดน้ำหนักด้วยอาหารไร้ไขมันแต่น้ำตาลสูงกำลังกลับมาอีกครั้ง ทั้งที่วิทยาศาสตร์ไม่สนับสนุน”
กินไขมันแบบฉลาด ดีกว่าเลี่ยงไขมันทั้งหมด
ศ.โจเซฟแนะนำว่า แทนที่จะหลีกเลี่ยงไขมันทั้งหมด ควรเลือกไขมันดีในปริมาณเหมาะสม เช่น น้ำมันมะกอก เมล็ดพืช อะโวคาโด และถั่ว ร่วมกับคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่มีกากใย และโปรตีนไขมันต่ำ
“ไขมันที่ดีจะช่วยลดความอยากอาหาร ควบคุมน้ำตาลในเลือด และทำให้อิ่มนานดีกว่าการกินโยเกิร์ตไร้ไขมันหรือซีเรียลบาร์โลว์แฟตทั้งวัน”
การลดไขมันในอาหารอาจดูเหมือนทางเลือกที่ดี แต่หากแลกมาด้วยน้ำตาลและสารเติมแต่ง อาจย้อนกลับมาทำร้ายเป้าหมายการลดน้ำหนักของคุณได้ ดังนั้น ควรเลือกอาหารที่ผ่านการแปรรูปน้อยที่สุด และมีคุณค่าทางโภชนาการที่แท้จริง แทนอาหาร “ติดฉลากลดน้ำหนัก” ที่หลอกตาแต่ไม่อิ่มใจ