หญิงกัดลิ้นไอ้หื่นขาด เป็นเหยื่อแต่ติดคุกเพราะป้องกันตัว รอความยุติธรรมนาน 61 ปี!

หญิงอายุ 18 เกือบถูกข่มขืน สู้กัดลิ้นไอ้หื่นขาด เป็นเหยื่อแต่กลับติดคุกเพราะป้องกันตัว พ้นมลทินตอนอายุ 79 ปี

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่ศาลแขวงปูซาน เขตยอมเจ ได้มีการไต่สวนคดีใหม่ของ ชเว มัลจา หญิงวัย 79 ปี ที่ถูกตัดสินจำคุกเมื่อปี 1964 จากการกัดลิ้นผู้ชายที่พยายามข่มขืนเธอจนได้รับบาดเจ็บ โดยตอนนั้นเธออายุเพียง 18 ปี

อัยการได้ขอโทษและเสนอให้ศาลพิพากษายกฟ้อง โดยระบุว่า "การกระทำของชเว มัลจาเป็นการป้องกันตัวที่ชอบด้วยกฎหมาย"

และกล่าวขอโทษว่า "เราได้สร้างความเจ็บปวดอย่างใหญ่หลวงต่อเหยื่อที่สมควรได้รับการคุ้มครอง"

คำขอให้ศาลตัดสินว่าเธอไม่มีความผิด ทำให้ผู้ที่อยู่ในห้องพิจารณา รวมถึงนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรี หลั่งน้ำตาด้วยความดีใจ หลังการพิจารณา ชเว มัลจา ชูมือและกล่าวว่า "ฉันชนะแล้ว"

"ตอนนั้นไม่ผิด ตอนนี้ก็ไม่ผิด"

เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 6 พฤษภาคม 1964 เมื่อชเว มัลจา ช่วยชายคนหนึ่งชื่อ "โน" อายุ 21 ปี ที่บอกว่าเขาหลงทาง แต่เขากลับฉวยโอกาสพยายามข่มขืนเธอ และบังคับจูบเธอ เธอจึงกัดลิ้นเขาจนขาด 1.5 ซม.

แม้จะเป็นการป้องกันตัวอย่างชัดเจน แต่เธอกลับถูกตัดสินจำคุก 10 เดือน รอลงอาญา 2 ปี ในขณะที่ผู้ก่อเหตุได้รับโทษเพียง 6 เดือน รอลงอาญา 2 ปี โดยไม่มีการตั้งข้อหาพยายามข่มขืนแต่อย่างใด

ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังถูกอัยการและผู้พิพากษาพูดจาไม่ให้เกียรติ เช่น บอกให้เธอไปตกลงกับคนร้าย หรือไม่ก็แต่งงานกับคนร้ายไปซะ สร้างความทุกข์ใจให้เธอยิ่งกว่าเดิม

ความพยายามไม่สิ้นสุด : สู่การยื่นอุทธรณ์

ในปี 2020 ชเว มัลจา ได้ยื่นขอรื้อฟื้นคดี โดยมีแรงบันดาลใจมาจากวิชาที่เรียนที่มหาวิทยาลัยเปิดเมื่ออายุเกิน 60 ปี และการเคลื่อนไหว MeToo ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวของผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศทั่วโลก

แม้คำร้องขอรื้อฟื้นคดีจะถูกปฏิเสธในปี 2021 แต่เธอก็ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา และในเดือนธันวาคม 2023 ศาลฎีกาได้สั่งให้เปิดการไต่สวนใหม่ เนื่องจากเห็นว่ามีการละเมิดสิทธิในระหว่างกระบวนการสืบสวน

เบื้องหลังความสำเร็จนี้มีเพื่อนร่วมชั้นเรียนจากมหาวิทยาลัยเปิด องค์กรสิทธิสตรี เช่น "สมาคมโทรศัพท์ผู้หญิงเกาหลี" และทนายความที่เคยเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือผู้หญิง

ทนายความของเธอกล่าวว่า "คุณชเวไม่ได้เพียงแค่ช่วยเหลือตัวเอง แต่ช่วยโลกให้เห็นความจริง… ความกล้าหาญของเธอสอนเราว่า คนที่ไม่หยุดช่วยเหลือตัวเองจะสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้เช่นกัน"

คำตัดสินที่ทุกคนรอคอย

ขณะนี้ ทุกฝ่ายคาดว่า ศาลจะมีคำพิพากษายกฟ้องในวันที่ 10 กันยายน เวลา 14.00 น. และจะเป็นการปิดฉากหนึ่งในคดีประวัติศาสตร์ที่สะท้อนความไม่เป็นธรรมต่อเหยื่อเพศหญิงได้อย่างเจ็บปวดที่สุดในเกาหลีใต้