เนื้อหาในหมวด ข่าว

ภัยเงียบ 1 โรคเลือดใกล้ตัว คนส่วนใหญ่คิดว่าแค่อ่อนเพลีย ไม่รู้ว่าเป็นสัญญาณเตือน

ภัยเงียบ 1 โรคเลือดใกล้ตัว คนส่วนใหญ่คิดว่าแค่อ่อนเพลีย ไม่รู้ว่าเป็นสัญญาณเตือน

ภัยเงียบ 1 โรคเลือดใกล้ตัว เกิดกับคนทุกวัย ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวคิดว่าแค่อ่อนเพลีย ที่แท้เป็นสัญญาณเตือน

หลายคนมักมีอาการอ่อนเพลีย หน้ามืด เวียนศีรษะ แต่ไม่ไปพบแพทย์ กลับคิดว่าเป็นเพียงการขาดสารอาหารหรือร่างกายอ่อนแอ ทว่าอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนเบื้องต้นของ "ภาวะโลหิตจาง" โดยไม่รู้ตัว

โลหิตจาง เป็นโรคทางโลหิตวิทยาที่พบบ่อยทั้งในระดับโลกและในเวียดนาม รายงานในปี 2021 ระบุว่ามีผู้ป่วยโลหิตจางทั่วโลกประมาณ 1.92 พันล้านคน โดยส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าตนเองป่วย เนื่องจากโรคมักดำเนินไปแบบเงียบ ๆ โดยเฉพาะในรายที่มีอาการเพียงเล็กน้อยจนไม่ได้สังเกต

โลหิตจางคืออะไร?

ภาวะโลหิตจางคือ ภาวะที่ระดับฮีโมโกลบิน (Hb) ในเลือดต่ำกว่าค่ามาตรฐานเมื่อเทียบกับคนเพศเดียวกันและวัยเดียวกัน ฮีโมโกลบินเป็นโปรตีนในเม็ดเลือดแดงที่ทำหน้าที่นำออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย ดังนั้น หากระดับ Hb ลดลงจะทำให้เกิดภาวะขาดออกซิเจนในอวัยวะต่าง ๆ

อาการของโลหิตจางมีอะไรบ้าง?

ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของโรค ผู้ป่วยอาจมีอาการดังนี้:

  • อ่อนเพลีย ไม่มีแรง แม้จะพักผ่อนเพียงพอ

  • ผิวซีด เยื่อบุตา ปาก เหงือกดูซีดกว่าปกติ

  • หน้ามืด เวียนหัว โดยเฉพาะเมื่อเปลี่ยนท่าทางเร็ว

  • หายใจหอบง่ายเมื่อออกแรง

  • หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ เพื่อชดเชยภาวะขาดออกซิเจน

นอกจากนี้ยังอาจพบอาการร่วมอื่น เช่น ผมร่วงง่าย เล็บเปราะ หงุดหงิดง่าย สมาธิสั้น ความจำลดลง เบื่ออาหาร หรือมีประจำเดือนผิดปกติในผู้หญิง

เม็ดเลือดแดงมีหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนไปยังอวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกาย และขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากร่างกาย หากกระบวนการนี้เกิดความผิดปกติ อาจทำให้สารพิษสะสมในร่างกายได้ การขาดออกซิเจนหรือจำนวนเม็ดเลือดแดงลดลง จะทำให้ผิวพรรณซีดลง โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ฝ่ามือ และลิ้น ซึ่งสามารถสังเกตได้ชัดเจน

สาเหตุของภาวะโลหิตจาง

มีหลายปัจจัยที่อาจทำให้เกิดโลหิตจาง เช่น:

  • การเสียเลือด: จากแผลในระบบทางเดินอาหาร ริดสีดวง ปัสสาวะเป็นเลือด หรือมีประจำเดือนมากผิดปกติ

  • เม็ดเลือดแดงถูกทำลายเร็วผิดปกติ: เช่นในโรคธาลัสซีเมีย

  • กระบวนการสร้างเม็ดเลือดผิดปกติ: เช่น ภาวะไขกระดูกเสื่อม หรือ การขาดสารอาหารที่จำเป็นในการสร้างเม็ดเลือด ได้แก่ เหล็ก กรดโฟลิก วิตามิน B12 หรือฮอร์โมนอีริโทรโพอีติน

แนวทางการรักษาโลหิตจาง

การรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุและระดับความรุนแรง โดยทั่วไปจะประกอบด้วย:

  • การให้เลือด: สำหรับรายที่เสียเลือดมากหรือระดับ Hb ต่ำมาก ในรายที่อาการไม่รุนแรงอาจเพียงเฝ้าระวัง

  • การเสริมสารอาหารที่จำเป็น: เช่น เพิ่มอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ตับ เนื้อแดง ผักใบเขียว พร้อมใช้ยาเสริมธาตุเหล็ก กรดโฟลิก หรือวิตามิน B12 ตามคำแนะนำแพทย์

  • โรคโลหิตจางจากพันธุกรรม (เช่น ธาลัสซีเมีย): ต้องรักษาด้วยการให้เลือดเป็นประจำ ร่วมกับการขับเหล็กส่วนเกิน และอาจใช้การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเลือดเป็นวิธีรักษาถาวร

โลหิตจางไม่ใช่แค่ความอ่อนเพลียธรรมดา แต่เป็นโรคที่อาจส่งผลร้ายแรงหากไม่รักษา หากคุณมีอาการน่าสงสัย ควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจเลือดและวินิจฉัยอย่างเหมาะสม อย่าปล่อยให้โรคเงียบทำร้ายสุขภาพโดยไม่รู้ตัว

ใครจะไปคิด \

ใครจะไปคิด "เวียนหัว" นึกว่าแค่โลหิตจาง ตรวจเจอมะเร็งระยะที่ 3 ต้องตัดอวัยวะทิ้ง

ใครจะไปคิด "เวียนหัว" นึกว่าแค่โลหิตจาง ที่แท้เป็นสัญญาณก่อนตรวจเจอมะเร็งระยะที่ 3 ลุกลามจนต้องตัดอวัยวะทิ้ง

สาวหูอื้อ-เวียนหัว ที่แท้เป็นสัญญาณมะเร็งลำไส้ใหญ่ หมอเฉลยอาการเกี่ยวกับโรคยังไง?

สาวหูอื้อ-เวียนหัว ที่แท้เป็นสัญญาณมะเร็งลำไส้ใหญ่ หมอเฉลยอาการเกี่ยวกับโรคยังไง?

สาวอายุแค่ 30 หูอื้อ-เวียนหัว นึกว่าไม่สบายเพราะเป็นเมนส์ ที่แท้มะเร็งลำไส้ใหญ่ หมอเฉลยเกี่ยวกันตรงไหน?

ใจหล่นวูบ รู้โรคต้นเหตุ \

ใจหล่นวูบ รู้โรคต้นเหตุ "รอยช้ำ" บนน่องลูกชาย หมอชี้น่ากลัวกว่า HIV รักษายากกว่ามะเร็ง

เอะใจ "รอยช้ำ" บนน่องลูกชาย แม่ฟังแทบทรุด หมอเผยเป็นป่วยอะไร น่ากลัวกว่าเอดส์ รักษายากกว่ามะเร็ง

พ่อใจร่วง ลูกสาว 2 ขวบ ตัวซีดแทบไม่มีสีเลือด รีบอุ้มไปหาหมอ ทรุดสาเหตุ \

พ่อใจร่วง ลูกสาว 2 ขวบ ตัวซีดแทบไม่มีสีเลือด รีบอุ้มไปหาหมอ ทรุดสาเหตุ "นม" ที่ให้ดื่ม

ลูกสาว 2 ขวบ ตัวซีดไม่มีสีเลือด พ่อเห็นแล้วรีบอุ้มไปหาหมอ แทบทรุดสาเหตุ "นม" ที่ให้ดื่ม ส่งผลเสียทั้งจิตใจ-ร่างกาย