ชายใจดี จ่ายค่าเรียนให้เด็กจนๆ 15 ปีต่อมา เธอกลับมาช่วยชีวิตเขา ไม่ใช่นิทาน คือเรื่องจริง!
ชายใจดี จ่ายค่าเรียนให้เด็กจนๆ 15 ปีต่อมาชีวิตพลิก ทำให้หลายคนร้องไห้ ไม่ใช่นิทาน แต่คือเรื่องจริง!
ย้อนกลับไป 15 ปีก่อน ในโกดังอันอบอ้าวแห่งหนึ่งในเมืองจี่หนาน มณฑลซานตง ประเทศจีน การพบกันโดยบังเอิญระหว่างเด็กสาววัย 17 ปี กับชายวัย 45 ปี ได้เปลี่ยนชะตากรรมของทั้งคู่ไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่ความรู้สึกของพวกเขาลึกซึ้งเทียบเท่าพ่อและลูกชายแท้ๆ
วัยเด็กอันโหดร้ายและการพบกันอันเป็นโชคชะตา… “หลี่ซาน” ต้องอดทนกับเหตุการณ์เลวร้ายมากมายตั้งแต่ยังเด็ก เมื่ออายุ 12 ปี พ่อของเธอเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับ และเมื่ออยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แม่ของเธอเป็นอัมพาต หลังจากหกล้มขณะเก็บสมุนไพร การสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ผ่าน ทำให้เธอต้องลาออกจากโรงเรียน กินแต่ขนมปังข้าวโพดและผักดอง เพื่อเก็บเงินค่ารักษาพยาบาลแม่
ในเดือนกันยายน ปี 2010 ณ โกดังแห่งหนึ่งในเมืองจี่หนาน “หลี่ หย่ง” เจ้าของร้านวัย 45 ปี เห็นหญิงสาวผอมบางคนหนึ่งกำลังพยายามยกกล่องสินค้าให้สูงกว่าศีรษะ ปกคอเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ แขนมีรอยแดงที่ขอบกล่อง เมื่อถามเขาก็รู้ว่าเธอลาออกจากโรงเรียนเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูแม่ ทำให้เขานึกขึ้นได้ว่าตนเองพลาดโอกาสเข้ามหาวิทยาลัยเพราะความยากจนเช่นกัน จึงตัดสินใจจ่ายค่าเล่าเรียนทั้งหมดให้เธอ และช่วยค่าใช้จ่ายในการดูแลแม่ด้วย
นับแต่นั้นมา ภรรยาของหลี่หย่งก็ส่งค่าครองชีพให้หลี่ซานเป็นประจำทุกเดือน นำอาหารมาให้แม่ของเธอทุกวัน และยังต้อนรับแม่และลูกสาวให้มาอยู่ด้วย เมื่อเห็นหลี่ซานแอบกินขนมปังข้าวโพดอยู่ที่มุมห้อง ก็ชวนเธอมากินข้าวกลางวันด้วย เมื่อรู้ว่าเธอสายตาสั้น ก็พาเธอไปตัดแว่นและพูดอย่างมีความสุขว่า "ครอบครัวของเรามีคนกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยเร็วๆ นี้"
หนึ่งปีต่อมา หลี่ซานสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ 582 คะแนน หลี่หย่งจัดงานเลี้ยง จุดพลุ และอวดไปทั่วว่า "นี่คือลูกสาวของฉัน" แม้ระหว่างเรียนมหาวิทยาลัย 4 ปี หลี่ซานจะขอออกค่าใช้จ่ายเอง แต่ก็มักจะกลับบ้านไปกินข้าวเย็นเรื่อยๆ
- เด็ก 8 ขวบสลบคาโต๊ะเรียน หมอยื้อชีวิตตื่นมาพูดกับแม่ 7 คำสุดท้าย สะเทือนใจยิ่งกว่าเดิม
- เล่นใหญ่มาก! ด.ช. 10 ขวบ โทรแจ้งการบ้านยากไป ตร.ส่ง “ท่านนี้” ไปช่วยสอนถึงบ้าน
กระทั่งปีที่เธอเรียนจบ กลับมาแล้วพบว่าร้านของหลี่ หย่งถูกไฟไหม้เพราะไฟฟ้าลัดวงจร สินค้าทั้งหมดเสียหายหมด และทุกคนในครอบครัวต้องย้ายเข้าไปอยู่ในอพาร์ตเมนต์เก่า ชายผู้เคยแข็งแกร่งคนนี้กลับมีผมขาว หลังค่อม และดวงตาแดงก่ำ ภาวะล้มละลายทำให้เขาไม่สามารถช่วยเหลือเด็กคนอื่นๆ ได้อีกต่อไป และเขาจึงเลือกที่จะกักตัวอยู่บ้าน
เมื่อผู้มีพระคุณเผชิญกับความสิ้นหวังเช่นนี้ หลี่ซานก็คุกเข่าลงร้องไห้ เรียกเขาว่า “พ่อ” และยืนยันว่าเธอจะดูแลครอบครัวนี้เอง เธอติดต่อคน 7 คน ที่เคยได้รับความช่วยเหลือจากหลี่หย่งเช่นกัน ก่อนรวบรวมเงินเพื่อเช่าบ้านหลังเก่า และตั้งกองทุนทุนการศึกษาเพื่อสานต่อความดีของเขา
ในรายการทีวี "ขอบคุณที่มานะ" จากคนที่ได้รับความช่วยเหลือสู่คนที่ได้รับความช่วยเหลือ หลี่ซานพูดเสียงสะอื้นและพูดว่า "ถ้าไม่มีเขา ฉันคงถูกชีวิตบดขยี้ไปแล้ว" เพราะการตัดสินใจเพียงชั่วครู่สามารถเปลี่ยนชีวิตคนๆ หนึ่งได้ และบางครั้งอาจช่วยชีวิตคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือได้ด้วย
10 ปีต่อมา ร้านของหลี่หย่งเปิดทำการอีกครั้ง และหลี่ ซานกลายเป็นผู้อำนวยการขององค์กรแห่งหนึ่งใน ถัดจากโกดังที่ถูกไฟไหม้เมื่อหลายปีก่อน มีโรงเรียนสำหรับเด็กที่อาศัยอยู่ในชนบทชื่อ "บ้านของหลี่ หย่ง ซาน" ผุดขึ้น ปัจจุบันเธอกำลังอุปถัมภ์เด็ก 3 คน และทุกครั้งที่เธอส่งเงิน เธอจะแนบการ์ดที่มีข้อความเก่าๆ ของหลี่หย่งไว้ด้วยว่า "จงก้าวไปข้างหน้า หลังคาจะอยู่ข้างหลังคุณเสมอ"
.jpg)