โศกนาฏกรรมวันเกิด เพื่อนสนิทวัยเก๋านัดกันมาฉลอง จู่ๆ รถบ้านระเบิด ดับคู่ 2 ศพ
โศกนาฏกรรมวันเกิด เพื่อนสนิทวัยเก๋านัดกันมาฉลอง จู่ๆ รถบ้านระเบิด ดับคู่ 2 ศพ ผู้เชี่ยวชาญเผยความบกพร่อง
เพื่อนสนิทสองคนที่ตั้งใจไปตั้งแคมป์เพื่อฉลองวันเกิดในรัฐเมน (Maine) ต้องจบชีวิตอย่างน่าสลด หลัง "รถบ้าน" (Travel trailer) ของพวกเธอเกิดระเบิดจากการจุดเทียน
ผู้เสียชีวิตคือ อเลเซีย เวนทูรา-ลาร์จ (Alesia Ventura-Large) อายุ 58 ปี และ แนนซี พิลช์ (Nancy Pilsch) อายุ 57 ปี ชาวรัฐแมสซาชูเซตส์ ทั้งคู่ถูกพบในสภาพถูกไฟคลอกนอกตัวรถบ้านที่ Powder Horn Campground เมืองโอลด์ ออร์ชาร์ด บีช แม้จะถูกนำตัวส่งศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินระดับ 1 ที่พอร์ตแลนด์ แต่ก็เสียชีวิตในวันถัดมา
กลิ่นก๊าซและจุดเริ่มต้นของระเบิด
รายงานระบุว่า เวนทูรา-ลาร์จชวนเพื่อนมาพักค้างคืนเพื่อฉลองวันเกิด แต่ราว 12.30 น. ได้เกิดเหตุระเบิดและไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าภายในรถบ้านมีก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG/Propane) รั่วซึมอยู่ เมื่อทั้งสองเปิดประตูหน้าต่างเพื่อระบายกลิ่นคล้ายไข่เน่า และจุดเทียนดับกลิ่น จึงทำให้เกิดการระเบิดขึ้นทันที
ข้อบกพร่องด้านความปลอดภัย
แม้รถบ้านจะติดตั้งเครื่องตรวจจับควัน แต่กลับไม่มี เครื่องตรวจจับก๊าซไวไฟ (explosive gas detector) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐาน นักแคมป์ผู้มีประสบการณ์ย้ำว่าอุปกรณ์นี้สามารถเตือนภัยได้ทันทีเมื่อพบการรั่วไหล และอาจช่วยป้องกันโศกนาฏกรรมได้
สมมติฐานสาเหตุการรั่วก๊าซ
เจ้าหน้าที่กลับไปตรวจสอบซากรถบ้านอีกครั้ง และตั้งสมมติฐานถึงสาเหตุการรั่วไหลไว้ 2 ประเด็น ได้แก่ ความบกพร่องของระบบก๊าซ หรือ ปุ่มเตาอบที่ถูกเปิดค้างไว้ ซึ่งอาจทำให้ก๊าซสะสมจนเกิดการระเบิด
จอห์น ลาร์จ (John Large) สามีของอเลเซีย กล่าวถึงภรรยาด้วยความโศกเศร้าว่า “เธอเป็นผู้หญิงที่เหลือเชื่อ เป็นผู้เยียวยาและเป็นแสงสว่างในชีวิตของใครหลายคน” ขณะที่ สตีฟ เบอร์โควิทซ์ (Steve Bercovitz) เพื่อนบ้านของแนนซี เผยว่า การจากไปครั้งนี้เป็นความสูญเสียใหญ่ของชุมชน โดยเฉพาะเมื่อมันเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนวันเกิดครบรอบ 58 ปีของเธอ
คำเตือนด้านความปลอดภัย
ขณะนี้การสอบสวนยังดำเนินต่อไป โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบระบบก๊าซของรถบ้านอย่างละเอียด พร้อมทั้งย้ำเตือนประชาชนให้ติดตั้ง เครื่องตรวจจับก๊าซ ในบ้าน รถบ้าน และสถานที่ที่ใช้ก๊าซโพรเพนหรือก๊าซธรรมชาติ
หัวหน้าหน่วยดับเพลิงโอลด์ ออร์ชาร์ด บีช จอห์น กิลบอย (John Gilboy) กล่าวทิ้งท้ายว่า “นี่คือโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ เราขอส่งความเสียใจและคำภาวนาไปยังครอบครัวของผู้สูญเสีย”