เนื้อหาในหมวด ข่าว

หนุ่มวัย 28 อายุปอดเท่าคนอายุ 95 ไอเรื้อรัง หายใจติดขัด ต้นเหตุไม่ใช่สูบบุหรี่

หนุ่มวัย 28 อายุปอดเท่าคนอายุ 95 ไอเรื้อรัง หายใจติดขัด ต้นเหตุไม่ใช่สูบบุหรี่

หนุ่มวัย 28 อายุปอดเท่าคนอายุ 95 ไอเรื้อรัง หายใจติดขัด ไม่ใช่มะเร็งและต้นเหตุไม่ใช่การสูบบุหรี่ 

นายยามาซากิ (นามสมมติ) ย้ายมาอยู่ไต้หวันกว่าหนึ่งปี แต่ต้องเผชิญกับอาการไอ มีเสมหะ และแน่นหน้าอกจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอยู่ตลอด ทว่าด้วยอุปสรรคทางภาษา ทำให้เขาไม่ได้ไปพบแพทย์ จนกระทั่งเริ่มหายใจติดขัดกระทบชีวิตประจำวันจึงตัดสินใจเข้ารับการรักษา

แพทย์ตรวจพบว่าเขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหอบหืดตั้งแต่ 5 ปีก่อนขณะอายุเพียง 28 ปี และผลตรวจสมรรถภาพปอดในเวลานั้นบ่งชี้ว่า “อายุปอด” ของเขาเทียบเท่าคนวัย 95 ปี

อายุปอด คืออะไร?

ดร.หวง เจี้ยนหยู หัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์ทรวงอก โรงพยาบาลไทเป อธิบายว่า “อายุปอด” มาจากการทดสอบสมรรถภาพปอด แล้วนำไปเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของคนในวัยเดียวกัน เป็นค่าที่ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจสุขภาพปอดของตนเองได้ง่ายขึ้น

แนวคิดนี้ถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางในหลายประเทศ เพื่อกระตุ้นการตระหนักถึงการควบคุมหอบหืดและการเสื่อมของปอด แต่ในไต้หวันยังไม่ถือเป็นเกณฑ์มาตรฐานทางการแพทย์

ตรวจพบความผิดปกติใน “หลอดลมฝอย”

ผลตรวจเพิ่มเติมพบว่านายยามาซากิมีภาวะต้านทานในหลอดลมฝอยเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งพบได้บ่อยในผู้ป่วยหอบหืด อาการดังกล่าวไม่เพียงทำให้ไอและแน่นหน้าอก แต่ยังส่งผลต่อคุณภาพการนอนและความสามารถในการทำกิจกรรมประจำวันด้วย

หลังได้รับการรักษาด้วยยาสูดควบคุมอาการและคำแนะนำในการปรับพฤติกรรม อาการของเขาดีขึ้นชัดเจน และคุณภาพชีวิตกลับมาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

หอบหืดควบคุมไม่ดี = ปอดเสื่อมเร็ว

ดร.หวงเตือนว่า หากหอบหืดไม่ได้รับการควบคุมที่ดี การอักเสบเรื้อรังอาจทำลายโครงสร้างหลอดลม ทำให้ปอดเสื่อมเร็วกว่าปกติ โดยเฉพาะความผิดปกติในหลอดลมขนาดเล็กที่มักไม่ถูกสังเกตตั้งแต่ระยะต้น หากไม่ได้ใช้ยาสูดอย่างต่อเนื่องตามแพทย์สั่ง อาการจะกำเริบซ้ำและทำให้ปอดเสื่อมลงเรื่อย ๆ

ปัจจัยกระตุ้นที่พบบ่อย ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงอากาศรุนแรง มลพิษทางอากาศ และการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้

วิธีดูแลให้ “ปอดยังหนุ่ม” สำหรับผู้ป่วยหอบหืด

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ 5 วิธีง่าย ๆ ที่ช่วยชะลอความเสื่อมของปอดและควบคุมโรคหอบหืดได้ดีขึ้น ได้แก่

  • ใช้ยาสม่ำเสมอ : รับประทานหรือสูดยาควบคุมตามแพทย์สั่งทุกวัน

  • ป้องกันอากาศเปลี่ยนแปลง : รักษาความอบอุ่น ระบายอากาศในบ้าน และสวมหน้ากากเมื่อออกนอกบ้าน

  • ตรวจวัดการหายใจ : ใช้เครื่อง Peak Flow Meter เพื่อตรวจจับความผิดปกติแต่เนิ่น ๆ

  • เลี่ยงมลพิษและสารก่อภูมิแพ้ : รักษาความสะอาดภายในบ้าน หลีกเลี่ยงควันบุหรี่และฝุ่นไรบ้าน

  • มีวิถีชีวิตสุขภาพดี : รับประทานอาหารที่สมดุล เสริมสารต้านอนุมูลอิสระ และออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อสุขภาพทางเดินหายใจ

  • ดร.หวงย้ำว่า ผู้ใหญ่สุขภาพดีตั้งแต่อายุ 35 ปีขึ้นไป จะสูญเสียสมรรถภาพปอดตามธรรมชาติปีละ 20-45 มิลลิลิตร หากเป็นหอบหืดและควบคุมไม่ดี ความเสื่อมจะยิ่งเร็วขึ้น ดังนั้นควรเข้ารับการรักษาและติดตามอาการตั้งแต่เนิ่น ๆ