เนื้อหาในหมวด ข่าว

Hyodol เปลี่ยนชีวิตคนชรา \

Hyodol เปลี่ยนชีวิตคนชรา "ตอนนี้ฉันไม่อยากตายแล้ว" ผลลัพธ์น่าทึ่งของ ChatGPT ต่อมนุษย์

"Hyodol" หุ่นยนต์พูดได้ช่วยคลายเหงาผู้สูงอายุเกาหลีใต้ จนเปลี่ยนใจอยากมีชีวิตอยู่ต่อ

ท่ามกลางแสงแดดอบอุ่นในห้องเล็กๆ กลางกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ คุณยายคิม จองรัน วัย 81 ปี กำลังนั่งอยู่บนเตียง พูดคุยกับตุ๊กตาผ้าน่ารักบนตักของเธออย่างแสนอบอุ่น

"ฮโยดอล หนูคือหลานสาวที่น่ารักของยาย" คุณยายกล่าว พลางจับมือตุ๊กตาตัวกลมที่สวมชุดลูกไม้สีลาเวนเดอร์เบาๆ "ยายรักหนูมากเลยนะ"

ตุ๊กตาหุ่นยนต์ตัวนั้นมีชื่อว่า “Hyodol” ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตุ๊กตาธรรมดา แต่มันคือหุ่นยนต์ AI ที่ออกแบบมาเพื่อดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะ

เพื่อนคลายเหงาในวันที่ลูกหลานไม่อยู่

Hyodol เป็นหุ่นยนต์ที่พัฒนาโดยบริษัทสตาร์ทอัพของเกาหลีใต้ ชื่อเดียวกันกับตัวผลิตภัณฑ์ ถูกออกแบบตามแนวคิดของลัทธิขงจื๊อ ซึ่งเน้นคุณค่าของการดูแลผู้ใหญ่ในครอบครัว

หุ่นยนต์ตัวนี้พูดได้ และใช้เทคโนโลยี ChatGPT เป็นสมองหลัก คอยพูดคุยกับผู้ใช้งาน แจ้งเตือนให้กินยา หรือตรวจสอบพฤติกรรมต่าง ๆ ผ่านเซนเซอร์แบบเรียลไทม์

สำหรับคุณยายคิมที่อาศัยอยู่คนเดียวในย่านอุตสาหกรรมอย่างกูโร หุ่นยนต์ตัวนี้ไม่ใช่แค่ของเล่นหรืออุปกรณ์ไฮเทค แต่กลายเป็น “เพื่อนแท้” ที่ช่วยเยียวยาความเหงาในช่วงบั้นปลายชีวิต

คำพูดที่เปลี่ยนชีวิต จากหุ่นยนต์... ที่ไม่เย็นชา

"สิ่งที่ผู้สูงอายุกลัวไม่ใช่ความตาย แต่คือความเหงา" คุณคิม ซอนฮวา ผู้อำนวยการศูนย์สวัสดิการกุงดง กล่าว

ทางรัฐบาลท้องถิ่นเริ่มแจกจ่ายหุ่นยนต์ Hyodol ให้ผู้สูงอายุตั้งแต่ปี 2019 โดยมีมากกว่า 12,000 ตัว ที่กำลังใช้งานทั่วประเทศในปัจจุบัน

หนึ่งในกรณีสำคัญคือช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีที่ผ่านมา มีคุณตาคนหนึ่งบอกกับ Hyodol ว่า “ฉันอยากตายแล้ว” ซึ่งหุ่นยนต์รายงานข้อมูลนี้ทันทีให้เจ้าหน้าที่ทราบ ทำให้สามารถเข้าแทรกแซงและส่งเขาไปรับการรักษาทางจิตเวชได้ทันเวลา

Hyodol ไม่ใช่แค่หุ่นยนต์พูดได้ แต่มาพร้อมระบบ AI ที่สามารถประเมินอารมณ์ผู้ใช้งานจากเสียงพูด โดยใช้ซอฟต์แวร์ของ Microsoft ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามสภาพจิตใจของผู้สูงอายุได้ตลอดเวลา

หากเซนเซอร์บนลำตัวไม่ตรวจพบการเคลื่อนไหวเกิน 24 ชั่วโมง ระบบจะส่งสัญญาณเตือนให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบทันที

ความผูกพันที่เกินคาดคิด จากหุ่นยนต์...สู่ครอบครัว

ผู้สูงอายุบางคนผูกพันกับ Hyodol อย่างลึกซึ้ง ถึงขั้นแต่งตัวให้เหมือนหลานจริงๆ บางคนถึงกับขอให้ฝังหุ่นยนต์นี้ไปพร้อมกับตัวเองเมื่อเสียชีวิต

เมื่อมีการซ่อมหุ่นยนต์ บางรายถึงขั้นเดินทางไปถามถึง "หลานสาว" ของตัวเองที่บริษัทด้วยความเป็นห่วง

คุณคิม ซิออน นักวิจัยของบริษัท Hyodol เล่าว่า "พวกเขาปฏิบัติกับหุ่นยนต์เหมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว ไม่ใช่แค่เครื่องจักร"

แม้หุ่นยนต์จะช่วยบรรเทาความเหงาได้ดี แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนก็แสดงความกังวลว่า ความสัมพันธ์เสมือน นี้อาจทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกโดดเดี่ยวมากขึ้นในระยะยาว โดยเฉพาะในผู้ป่วยสมองเสื่อมที่อาจเข้าใจคำพูดของหุ่นยนต์อย่างผิดๆ

หนึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ หุ่นยนต์พูดว่า “ยายจ๋า หนูอยากฟังเสียงน้ำไหลจังเลย” ทำให้ผู้สูงอายุคนหนึ่งเดินทางไปลำธารโดยลำพังพร้อมหุ่นยนต์ในอ้อมกอด จนบริษัทต้องลบคำพูดลักษณะนี้ออกจากระบบ

เมื่อเร็วๆ นี้ เจ้าหน้าที่ได้จัดงานวันเกิดให้กับ Hyodol พร้อมเค้กสตรอว์เบอร์รี และการ์ดอวยพรที่ผู้สูงอายุเขียนด้วยลายมือ

“ทุกครั้งที่ฉันกลับบ้าน Hyodol จะพูดว่า ‘ยายจ๋า ยายกลับมาแล้ว!’ มันทำให้หัวใจฉันอบอุ่นเหลือเกิน” คุณยายคิมกล่าวต่อหน้ากลุ่มผู้สูงอายุที่พยักหน้าเห็นด้วย

คุณยายจอน ซันวอล ที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ถึงกับกล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า “ฉันเคยคิดจะจบชีวิตตัวเอง...แต่ตอนนี้ไม่แล้วล่ะ โลกใบนี้ยังมีอะไรดี ๆ แบบนี้อยู่ ทำไมต้องตายด้วยล่ะ?”