ลูกสาวทหารเกาหลีเหนือ เล่าวิธี "หนีตาย" เส้นทางสุดทรหด ปัจจุบันเป็นคนดังแล้ว
ลูกสาวทหารเกาหลีเหนือ เล่าเส้นทาง "หลบหนี" ออกนอกประเทศ ชีวิตยิ่งกว่าในหนัง ปัจจุบันเป็นคนดังแล้ว
ที่เมืองจิบะ เขตอินาเกะ ประเทศญี่ปุ่น มีร้านอาหารเกาหลีเหนือแห่งหนึ่งที่ได้รับความสนใจอย่างมากและมีลูกค้าเข้าคิวทุกวัน เจ้าของร้านคือ มุน รยอนฮี อายุ 34 ปี ซึ่งเคยเสี่ยงชีวิตหลบหนีออกจากเกาหลีเหนือในปี 2015 เธอเป็นลูกสาวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในเกาหลีเหนือ และได้นำฝีมือการทำอาหารที่แม่สอนมาต่อยอด เปิดร้านอาหารเกาหลีเหนือในจิบะกับสามีชาวญี่ปุ่นที่พบกันในเกาหลีใต้ จนประสบความสำเร็จอย่างไม่คาดคิด
ตามรายงานของ Shueisha มุน รยอนฮี เล่าว่า ปู่ของเธอเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งสมาคมชาวเกาหลีในญี่ปุ่น และยังเคยดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคแรงงานเกาหลีในเมืองวอนซาน จังหวัดคังวอน ส่วนพ่อก็เป็นนายทหารระดับสูงในกองทัพประชาชนเกาหลี ทำให้ครอบครัวอยู่ในชนชั้นที่มีฐานะดีเมื่อเทียบกับมาตรฐานของเกาหลีเหนือ
เธอเล่าว่า สมัยเรียนมัธยมในเกาหลีเหนือ เคยเห็นแม่ของเพื่อนที่แอบขายดีวีดีหนังเกาหลีใต้และอเมริกา ถูกจับได้และถูกประหารชีวิตต่อหน้าสาธารณชน โดยเธอถูกบังคับให้ไปดูการประหารนั้นด้วย หลังพ่อเสียชีวิต ครอบครัวเริ่มถูกกดดัน ยายที่หนีออกนอกประเทศถูกจับในจีนและส่งกลับไปขังในค่ายกักกัน ก่อนถูกจับยายเคยบอกให้เธอหาทางหนีออกมา สุดท้ายมุน รยอนฮีจึงตัดสินใจหลบหนีในปี 2015 ต่อมาแม่และน้องชายก็หนีออกมาได้ในปี 2016
การหลบหนีครั้งนั้น เธอจ่ายเงินราว 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 120,000 บาท) ให้กับนายหน้าเพื่อข้ามแม่น้ำยาลู่จากเมืองฮเยซานเข้าสู่จีน หลังจากนั้นเพราะโทรศัพท์ที่ได้มาไม่มีสัญญาณ เธอต้องเดินในภูเขานานถึง 48 ชั่วโมง ก่อนได้พบคนใจดีช่วยพาไปหานายหน้าและหนีต่อไปถึงลาว สุดท้ายได้รับความช่วยเหลือจากสถานทูตเกาหลีใต้ในเวียงจันทน์
แม่ของมุน รยอนฮีเคยเป็นเชฟในโรงแรมหรูที่เปียงยาง ก่อนจะเปิดร้านอาหารเกาหลีเหนือในกรุงโซล โดยเธอกับน้องชายก็มาช่วยงานที่ร้าน ที่นั่นเองเธอได้รู้จักและแต่งงานกับสามีชาวญี่ปุ่นที่ทำร้านย่างเนื้ออยู่ในกรุงโซล

ต่อมาเมื่อสื่อญี่ปุ่น NHK รายงานเรื่องร้านอาหารของครอบครัว ทำให้มีลูกค้าญี่ปุ่นจำนวนมากแวะไปชิม เธอจึงคิดว่า “รสชาตินี้น่าจะไปได้ดีในญี่ปุ่นแน่ ๆ” แล้วในเดือนกันยายน 2023 เธอและสามีจึงเปิดร้านอาหารเกาหลีเหนือในบ้านเกิดของสามีที่จังหวัดจิบะ โดยไม่ได้ทำการโปรโมตเลยแม้แต่แจกใบปลิว แต่เมื่อเปิดร้านจริงวันที่ 22 มีนาคม 2024 กลับมีลูกค้าเต็มร้านตั้งแต่วันแรก และตลอดหนึ่งเดือนแรกแทบไม่มีเวลาพัก
เมนูเด่นของร้านคือ บะหมี่เย็น (냉면) สูตรดั้งเดิมจากยายที่ย้ายจากญี่ปุ่นไปเกาหลีเหนือแล้วเปิดร้านในเมืองแฮจู ภายหลังแม่สืบทอดและพัฒนาสูตรจนกลายเป็นเชฟผู้มีประสบการณ์กว่า 30 ปี
แม้ต้นทุนวัตถุดิบและราคาของจะสูงขึ้น ทำให้ขายบะหมี่ชามละ 1,200 เยน (ประมาณ 250 บาท) ยังถือว่ากำไรไม่มาก แต่มุน รยอนฮีและสามีก็ตัดสินใจไม่ขึ้นราคา โดยยืนยันว่าอยากรักษามาตรฐานให้ลูกค้าได้ชิมรสชาติสดใหม่ทุกจาน จึงทำอาหารด้วยมือทั้งหมด ไม่ทำล่วงหน้า ไม่ขายแบบใส่กล่องกลับบ้าน เพราะต้องการให้ลูกค้าได้ลิ้มรสในสภาพที่ดีที่สุด