เนื้อหาในหมวด ข่าว

ก่อนมีแอร์ คนโบราณคลายร้อนด้วย \

ก่อนมีแอร์ คนโบราณคลายร้อนด้วย "หมอน" เฉลยทำจากอะไร ไม่ใช่แค่เย็น แต่ช่วยรักษาโรค!

ก่อนมีแอร์ คนสมัยโบราณคลายร้อนด้วย "หมอนเซรามิก" ที่ไม่ใช่แค่เย็น แต่ยังช่วยรักษาโรค และผมไม่เสียทรง!

ก่อนที่พัดลมและเครื่องปรับอากาศจะถือกำเนิดขึ้น โลกเคยผ่านช่วงหน้าร้อนอย่างทรมานจากปีหนึ่งไปสู่อีกปีหนึ่ง ผู้คนในอดีตจึงต้องหาวิธีคลายร้อนให้สามารถนอนหลับพักผ่อนได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ไฟฟ้าแบบปัจจุบัน

หนึ่งในนวัตกรรมที่ถูกคิดค้นขึ้นก็คือ หมอนเซรามิก หรือหมอนที่ทำจากวัสดุอย่างเซรามิกและไม้ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยระบายความร้อน แต่ยังมีคุณสมบัติในการช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยบางอย่างอีกด้วย

จากหมอนหินสู่หมอนเซรามิกสุดประณีต

ในยุคแรกเริ่ม หมอนถูกทำขึ้นจากหินธรรมชาติ ลักษณะหยาบและไม่สวยงามนัก ต่อมาเริ่มมีการพัฒนาหมอนให้มีความสวยงามยิ่งขึ้น โดยใช้วัสดุอย่าง เซรามิก ที่สามารถออกแบบลวดลายให้ประณีต และยังมีความเย็นอยู่ในตัว

หมอนเซรามิกมีลักษณะกลวงด้านใน ทำให้สามารถระบายความร้อนได้ดี ผู้ใช้จึงรู้สึกเย็นสบายขณะนอน และสามารถหลับได้ง่ายขึ้นในคืนที่อากาศร้อนอบอ้าว

ประโยชน์ด้านสุขภาพตามศาสตร์จีนโบราณ

ตามหลักแพทย์แผนจีนโบราณ หมอนประเภทนี้มีคุณสมบัติที่ช่วยรองรับส่วนโค้งตามธรรมชาติของกระดูกสันหลัง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกคอและหลัง ทำให้นอนในท่าที่ถูกต้อง และลดอาการปวดเมื่อยได้

เหตุผลด้านความงามและความสะดวกสบาย

ในสมัยก่อน ผู้หญิงและผู้ชายมักมวยผมหรือทำผมอย่างประณีตในแต่ละวัน การนอนบนหมอนนุ่มอาจทำให้ทรงผมเสียทรง ต้องเสียเวลาจัดแต่งใหม่ในตอนเช้า

หมอนเซรามิกที่มีลักษณะสูงและแข็งช่วยให้สามารถนอนได้โดยไม่ทำลายทรงผม อีกทั้งยังช่วยลดเหงื่อและความชื้น จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยม โดยบางคนสามารถรักษาทรงผมไว้ได้นานถึงหนึ่งสัปดาห์โดยไม่ต้องจัดแต่งซ้ำ

หมอนสะท้อนฐานะและรสนิยมของเจ้าของ

นอกจากประโยชน์ใช้สอยแล้ว หมอนเซรามิกยังกลายเป็นเครื่องแสดงฐานะและรสนิยมของผู้เป็นเจ้าของ หมอนเหล่านี้มีหลากหลายรูปทรง เช่น ทรงเรขาคณิต ทรงสัตว์ ทรงอาคาร และทรงมนุษย์

การตกแต่งหมอนมีความประณีต ไม่ว่าจะเป็นการแกะสลัก ขูดลาย พิมพ์ลาย และลงสี ซึ่งล้วนสะท้อนถึงอำนาจ ความมั่งคั่ง และศิลปะในยุคนั้น

เมื่อหมอนเซรามิกถูกแทนที่ด้วยหมอนผ้า

เมื่อเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ พร้อมกับการเข้ามาของเทคโนโลยีตะวันตกและอุปกรณ์คลายร้อน หมอนเซรามิกจึงค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยหมอนผ้า หมอนนุ่น และหมอนใยสังเคราะห์ที่นุ่มนิ่มและดูทันสมัยมากขึ้น

หมอนชนิดอื่นที่คนโบราณนิยมใช้

นอกจากหมอนเซรามิกแล้ว คนโบราณยังมีหมอนชนิดอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติพิเศษด้านสุขภาพ ดังนี้

1. หมอนใบไม้

ทำจากใบหม่อน ใบไผ่ ใบหลิว ใบบัว และใบพุทรา มีสรรพคุณช่วยลดไข้ แก้ปวดหัว เวียนหัว ตาแดง และเจ็บคอ

2. หมอนอบเชย

ใช้ อบเชย เป็นส่วนประกอบหลัก เหมาะสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูงร่วมกับอาการเวียนหัว หูอื้อ นอนไม่หลับ หรือรู้สึกไม่สบายตัว

3. หมอนไหม

เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหรือชาบริเวณศีรษะ คอ ไหล่ และหลัง เนื่องจากเส้นไหมมีคุณสมบัติช่วยปรับสมดุลและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

แม้ว่าในปัจจุบันหมอนเซรามิกจะหายไปจากวิถีชีวิต แต่ในอดีตหมอนชนิดนี้ถือเป็นทั้งของใช้ในชีวิตประจำวัน ของตกแต่งบ้าน และยังช่วยส่งเสริมสุขภาพตามความเชื่อของคนโบราณ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของภูมิปัญญาที่ผสมผสานทั้งศิลปะและการแพทย์อย่างลงตัว