เนื้อหมู 4 ประเภท "อันตราย" คนขายพูดเอง ราคาถูกแค่ไหนก็ไม่ซื้อ ให้ฟรียังไม่กิน!!!
ผู้เชี่ยวชาญเตือน เนื้อหมู4 ประเภทที่เต็มไปด้วยแบคทีเรีย และอาจส่งผลต่อสุขภาพ แม้แต่คนขายก็เปิดเผยตรงๆ ว่าไม่กินเด็ดขาด!!!
เนื้อหมูเป็นเนื้อสัตว์ยอดนิยมที่ผู้คนมักนำมาประกอบอาหารประจำวัน สามารถปรุงได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นผัด ตุ๋น ย่างหรือทอดกรอบ ล้วนให้รสชาติที่อร่อยลงตัว เนื้อหมูยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ให้สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่นโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และแร่ธาตุ ซึ่งช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดี
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว QQ News จากประเทศจีน รายงานว่า เนื้อหมูในท้องตลาดไม่ได้ปลอดภัยทั้งหมด เนื้อสัตว์คุณภาพต่ำ เป็นพิษ หรือเป็นพาหะนำโรคบางชนิดอาจถูกขายควบคู่ไปกับเนื้อหมูเพื่อสุขภาพชนิดอื่นโดยผู้ขายที่ไร้จรรยาบรรณ การบริโภคเนื้อสัตว์คุณภาพต่ำเหล่านี้อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพมากมาย
ขณะเดียวกัน พ่อค้าหมูรายหนึ่งเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ข่าว Sina โดยบอกอย่างชัดเจนว่า "มีหมูอยู่ 4 ชนิดที่ฉันจะไม่ซื้อ ไม่ว่าจะถูกแค่ไหน และไม่รับแม้จะให้ฟรีก็ตาม ฉันหวังว่าผู้คนจะไม่ซื้อหมูผิดประเภท เพราะมันจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ"
- แพทย์ไต้หวัน เตือนอย่ากิน "ปลาชนิดนี้" เสี่ยงมะเร็งโพรงจมูก 6 เท่า แต่ไทยยังกินกันอยู่!
- คนแห่ถามพิกัด ไวรัลแม่ค้าผลไม้ ใส่เสื้อกล้ามขาวดังข้ามคืน ยอดฟอลไอจีพุ่งไม่หยุด!
เนื้อสัตว์ 4 ประเภทที่ไม่ควรซื้อแม้ราคาถูกแค่ไหน
1.เนื้อหมูมีจุดสีขาวคล้ายเมล็ดข้าว
เนื้อหมูที่มีจุดขาวคล้ายเมล็ดข้าว เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเนื้อหมูมีพยาธิตัวตืดหรือปรสิตติดมาด้วย เมื่อรับประทานเนื้อสัตว์ที่มีพยาธิตัวตืดหรือปรสิตติดมาด้วย โดยเฉพาะเนื้อดิบหรือเนื้อที่ปรุงไม่สุก ตัวอ่อนของพยาธิตัวตืดสามารถเข้าสู่ร่างกาย ขยายพันธุ์ และเจริญเติบโตในระบบย่อยอาหาร รวมถึงอวัยวะอื่นๆ เช่น สมอง ตับ ระบบไหลเวียนโลหิต เป็นต้น
เมื่อติดเชื้อพยาธิตัวตืด ผู้บริโภคอาจพบอาการผิดปกติ เช่น มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อและบวม เป็นต้น หากตัวอ่อนเคลื่อนตัวไปที่สมอง ผู้ป่วยอาจพบอาการต่างๆ เช่น ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ นอนไม่หลับ สูญเสียความทรงจำ เป็นอัมพาต เป็นต้นหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที การติดเชื้อพยาธิตัวตืดอาจส่งผลต่อชีวิตของผู้ป่วยได้
2.เนื้อหมูไม่มีความยืดหยุ่น
รองศาสตราจารย์หลี่ ซิงหมิน ผู้ปฏิบัติงานภาควิชาวิทยาศาสตร์การอาหารและวิศวกรรมโภชนาการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แห่งประเทศจีน ระบุว่า ความยืดหยุ่นของเนื้อสัตว์ถูกกำหนดโดยโครงสร้างของเส้นใยกล้ามเนื้อและโปรตีนเนื้อหมูสดอุดมไปด้วยน้ำและโปรตีน ทำให้เนื้อสัมผัสมีความแน่นและยืดหยุ่น เมื่อกดนิ้วลงไปในเนื้อ รอยบุ๋มบนเนื้อจะกลับคืนสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม หากเก็บเนื้อหมูไว้นานเกินไป เนื้อหมูจะไม่สดอีกต่อไป โปรตีนและไขมันในเนื้อจะค่อยๆ สลายตัว ทำให้โครงสร้างของเส้นใยกล้ามเนื้อเสียหาย และทำให้พื้นผิวของเนื้อหมูสูญเสียความยืดหยุ่น
3.เนื้อหมูมีสีและกลิ่นที่ผิดปกติ
เนื้อหมูสดมักจะมีสีชมพูอ่อน ไขมันเป็นสีขาวและไม่มีกลิ่น อย่างไรก็ตาม เมื่อเนื้อเน่าเสีย สีของเนื้ออาจเปลี่ยนเป็นสีเทา เขียวหรือน้ำตาล และไขมันจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองผิดปกติ
นอกจากนี้ เนื้อหมูที่เน่าเสียมักจะมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวหรือมีกลิ่นคล้ายแอมโมเนีย เนื้อหมูที่เน่าเสียเป็นเวลานานจะมีกลิ่นเหม็นมากขึ้นเรื่อยๆ
4. หมูเหนียว
รองศาสตราจารย์หลี่ ซิงหมิน กล่าวว่า เนื้อหมูสดมักจะมีเนื้อแน่น นุ่ม และมีความชื้นอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม หากสัมผัสเนื้อแล้วรู้สึกว่าผิวของเนื้อเหนียว แสดงว่าเนื้อนั้นเน่าเสียหรือเน่าเสียเนื่องจากการเก็บรักษาที่ไม่เหมาะสมหรือเก็บไว้นานเกินไป เนื้อเหนียวมักมีแบคทีเรียจำนวนมาก ซึ่งไม่ได้รับประกันความสะอาดและความปลอดภัยของอาหาร ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการซื้อเนื้อหมูประเภทนี้เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาหารเป็นพิษ
ผู้เชี่ยวชาญระบุย้ำว่า เมื่อไปตลาด ควรหลีกเลี่ยงเนื้อหมู 4 ชนิดที่กล่าวมาข้างต้น ควรเลือกซื้อจากร้านค้าที่มีชื่อเสียง มีแหล่งที่มาชัดเจน และมีตราประทับรับรองคุณภาพ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ
