ไขข้อข้องใจ: "ฟ้าผ่า" สามารถผ่าซ้ำลงจุดเดิมได้หรือไม่? คำตอบอาจทำให้คุณเซอร์ไพรส์
ฟ้าผ่า เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ทั้งน่าตื่นเต้นและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน แต่คุณเคยสงสัยไหมว่า ฟ้าสามารถผ่าลงที่เดิมได้จริงหรือไม่?
หลายคนมักได้ยินคำพูดที่ว่า “ฟ้าไม่ผ่าที่เดิมสองครั้ง” แต่ความจริงในเชิงวิทยาศาสตร์กลับบอกอีกเรื่อง เพราะฟ้าผ่าสามารถเลือก “เป้าหมายซ้ำ” ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะวัตถุสูงหรือเป็นตัวนำไฟฟ้า
เรื่องนี้ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับฟิสิกส์ของไฟฟ้าและอากาศ แต่ยังมีผลต่อความปลอดภัยในชีวิตประจำวันของเราด้วย
บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจว่าฟ้าผ่าสามารถผ่าซ้ำที่เดิมได้จริงหรือไม่? พร้อมตัวอย่างจริงจากทั่วโลก

ฟ้าผ่าคืออะไร?
ฟ้าผ่า เกิดจากการสะสมของประจุไฟฟ้าในเมฆและพื้นดิน เมื่อประจุแตกต่างกันมากจนเกิดสนามไฟฟ้าแรงสูง กระแสไฟฟ้าจะถูกปล่อยออกมาในรูปของฟ้าแลบหรือฟ้าผ่า
ฟ้าผ่าไม่ได้เกิดแบบสุ่มทั้งหมด บริเวณที่สูงๆ เช่น ตึกสูง สถานีส่งไฟฟ้า หรือเสาโลหะ มักเป็นเป้าหมายหลักของฟ้าผ่า
ฟ้าผ่าสามารถผ่าลงที่เดิมได้หรือไม่?
คำตอบคือ ได้ ฟ้าผ่าสามารถผ่าลงที่เดิมซ้ำได้หลายครั้ง โดยเฉพาะวัตถุสูงที่เป็นตัวนำไฟฟ้า ตัวอย่างเช่น ตึกระฟ้า Burj Khalifa ในดูไบ ถูกฟ้าผ่ามากกว่า 100 ครั้งต่อปี ส่วนอาคารสูงอื่นๆในเมืองใหญ่ก็เจอฟ้าผ่าซ้ำบ่อยเช่นกัน

ทำไมฟ้าผ่าจึงผ่าซ้ำได้?
- ความสูงและโครงสร้าง: วัตถุสูงมีโอกาสเป็นทางผ่านของกระแสไฟฟ้าได้มากกว่า
- ความเป็นตัวนำไฟฟ้า: โลหะ เช่น เสาไฟ เสาเหล็ก หรืออาคารมีโอกาสถูกฟ้าผ่าสูง
- สภาพอากาศ: เมฆฝนหรือพายุที่มีประจุไฟฟ้าสะสมมาก จะทำให้พื้นที่เดิมเสี่ยงฟ้าผ่าซ้ำ
ตัวอย่างจริงจากโลก
นอกจาก Burj Khalifa แล้ว สะพาน Golden Gate และตึก Empire State ก็ถูกฟ้าผ่าซ้ำหลายครั้งทุกปี แสดงให้เห็นว่าฟ้าผ่าไม่ได้เลือกแบบสุ่มเท่านั้น แต่เลือกตามลักษณะทางฟิสิกส์ของวัตถุ

ความปลอดภัยเมื่ออยู่ท่ามกลางฟ้าผ่า
- หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งในช่วงฝนฟ้าคะนอง
- อย่าเข้าใกล้เสาโลหะ ต้นไม้สูง หรือสิ่งก่อสร้างสูงในช่วงพายุ
- ถ้าอยู่ในบ้านหรืออาคาร ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสอุปกรณ์ไฟฟ้าและท่อน้ำโลหะ
บทสรุป
แม้คำพูดที่ว่า “ฟ้าไม่ผ่าที่เดิมสองครั้ง” จะฟังดูน่าเชื่อ แต่ในความจริงทางวิทยาศาสตร์ ฟ้าผ่าสามารถผ่าซ้ำลงที่เดิมได้ โดยเฉพาะวัตถุสูงหรือเป็นตัวนำไฟฟ้า
การเข้าใจเรื่องนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้เราเข้าใจปรากฏการณ์ธรรมชาติ แต่ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับชีวิตประจำวันด้วย
แหล่งอ้างอิง: - National Weather Service, Lightning Safety Tips - NASA, Lightning Research - Weather.com, Facts About Lightning Strikes