สาวฟ้องนายจ้าง ไล่ออกเพราะช้อปปิ้งออนไลน์ในเวลางาน ศาลตัดสินแล้ว ใครผิด?

นักบัญชีหญิงในสหราชอาณาจักร ถูกนายจ้างไล่ออกเพราะใช้เวลาทำงานวันละราว 45 นาทีช้อปปิ้งออนไลน์ โดยบริษัทอ้างว่าเป็นการ “ทำธุระส่วนตัวในเวลางาน” แต่ศาลแรงงาน (Employment Tribunal) พิจารณาแล้วตัดสินว่าเป็น การเลิกจ้างไม่เป็นธรรม (Unfair Dismissal) และมีคำสั่งให้นายจ้างจ่ายชดเชยกว่า 14,000 ปอนด์ (ประมาณ 570,000 บาท)

ตามรายงานของ Daily Mail ผู้ถูกเลิกจ้างคือ แอนนา ลานุซกา (Anna Lanuszka) อายุ 34 ปี ทำงานตำแหน่งนักบัญชีให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง ตั้งแต่ปี 2017 โดยในเดือนกรกฎาคม 2023 ก่อนที่เธอจะย้ายจากโปแลนด์มาอยู่สหราชอาณาจักรถาวร บริษัทได้แอบติดตั้งซอฟต์แวร์สอดแนมในคอมพิวเตอร์ของเธอ และพบว่าเธอใช้เวลารวมเกือบ 2 ชั่วโมงใน 2 วัน เพื่อทำธุระส่วนตัว จึงถูกไล่ออก

ข้อมูลจากศาลระบุว่า การตรวจสอบพบว่าเธอเข้าเว็บไซต์ Rightmove, Amazon และ Very เพื่อหาข้อมูลอสังหาริมทรัพย์และช้อปปิ้ง แต่เธอยืนยันว่ากิจกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงไม่มีงาน หรือตอนพักกลางวัน

คำตัดสินชี้ว่า ผู้บริหารบริษัท จงใจติดตั้งซอฟต์แวร์เฝ้าระวังเพื่อ “หาหลักฐานมัดตัว” และรีบเลิกสัญญาก่อนที่ลานุซกาจะทำงานครบ 2 ปี ซึ่งจะทำให้เธอได้รับสิทธิคุ้มครองตามกฎหมาย อีกทั้งยังมีการเปิดเผยว่าเคราเซได้เขียนบันทึกภาษาอังกฤษย้อนหลัง อ้างว่าเคยตักเตือนพนักงานแล้ว แต่ศาลเห็นว่าเอกสารเหล่านี้ไม่น่าเชื่อถือและน่าจะถูกสร้างขึ้นภายหลัง

ผู้พิพากษาไมเคิล แมกกี (Michael Magee) กล่าวว่า “การเลิกจ้างครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับผลงานของเธอ แต่เป็นการหลีกเลี่ยงภาระผูกพันด้านแรงงานอย่างชัดเจน พนักงานคนนี้ทำงานต่อเนื่องมา 5 ปี ถือเป็นผู้ได้รับสิทธิคุ้มครอง”

ศาลจึงตัดสินว่า ลานุซกาใช้เวลาเพียง 114 นาทีภายใน 2 วัน ไม่ถือว่า “ใช้เวลาส่วนตัวเกินควร” อีกทั้งบริษัทไม่ได้มีกฎห้ามชัดเจนในการใช้คอมพิวเตอร์ทำธุระส่วนตัวระหว่างเวลาว่าง ทำให้การเลิกจ้างถือว่าไม่เป็นธรรม และไม่มีเหตุผลในการหักเงินชดเชย โดยเธอได้รับเงินชดเชย 14,120 ปอนด์ ครอบคลุมทั้งความเสียหายและผลกระทบทางจิตใจจากการถูกเลิกจ้าง