งดน้ำตาลแล้ววีนฉ่ำ ไขข้อสงสัย ขาดหวานทำให้หงุดหงิดจริง หรือแค่คิดไปเอง?
ปัญหาของคนติดหวาน งดน้ำตาลแล้ววีนฉ่ำ ไขข้อสงสัย ขาดหวานแล้วหงุดหงิดจริงหรือคิดไปเอง?
เวลาที่ได้ดื่มชานมไข่มุก น้ำอัดลม หรือกินเค้ก หลายคนรู้สึกสดชื่น อารมณ์ดี หายเหนื่อย นั่นเพราะน้ำตาลให้พลังงานรวดเร็ว และกระตุ้นสาร “โดพามีน” ในสมอง จนบางครั้งทำให้เรา “ติดหวาน” โดยไม่รู้ตัว
อาการของคนติดหวาน (Sugar Blues)
-
กินขนมหวานเป็นประจำ
-
ดื่มแต่น้ำหวาน ไม่ค่อยดื่มน้ำเปล่า
-
หิวบ่อย ต้องเติมน้ำตาลในอาหารหรือเครื่องดื่ม
-
ถ้าไม่ได้กินหวานจะรู้สึกเหนื่อย เพลีย หรือหงุดหงิด
.jpg)
ทำไมต้องงดหรือเลี่ยงน้ำตาล?
การบริโภคน้ำตาลมากเกินไป โดยเฉพาะน้ำตาลเชิงเดี่ยว ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูง ส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น
-
โรคอ้วน น้ำหนักเกิน
-
โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง
-
กระดูกและฟันไม่แข็งแรง
-
อ่อนเพลีย ง่วงง่าย
-
ผิวแก่เร็ว
-
เสี่ยงโรค NCDs ต่าง ๆ (โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง)
WHO แนะนำให้บริโภคน้ำตาลไม่เกิน 4–6 ช้อนชา/วัน (16–24 กรัม)
งดน้ำตาลแล้วหงุดหงิด จริงหรือไม่?
จริง แต่เป็นแค่ชั่วคราว
เพราะร่างกายคุ้นชินกับโดพามีนจากน้ำตาล เมื่อหยุดกะทันหันจึงเหมือนอาการถอน ทำให้เกิด:
-
ปวดศีรษะ
-
อ่อนเพลีย
-
หงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน
แต่ร่างกายจะค่อย ๆ ปรับตัวได้ หากลดอย่างค่อยเป็นค่อยไป

วิธีลดน้ำตาลแบบไม่พังอารมณ์
ลดทีละขั้น : จากหวาน 100% ค่อย ๆ ลดเหลือ 50% 25% 0%
อ่านฉลากโภชนาการ : เลือกสินค้าน้ำตาลต่ำ หรือมีสัญลักษณ์ “ทางเลือกสุขภาพ”
เปลี่ยนเป็นผลไม้หวานน้อย : เช่น ฝรั่ง แอปเปิล แก้วมังกร เบอร์รี่
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ : ช่วยให้สมองหลั่งสารแห่งความสุขแทนน้ำตาล
ตั้งเป้าชาเลนจ์ 21 วัน : ฝึกวินัยจนกลายเป็นนิสัย
การงดน้ำตาลอาจทำให้หงุดหงิดได้จริง แต่เป็นเพียงระยะสั้น หากค่อย ๆ ลดและหันมาเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ ร่างกายจะกลับมาสมดุล สุขภาพดีขึ้น แถมยังห่างไกลโรคร้ายได้อีกด้วย