กูรูเผย "ท่านอน" ล้างพิษในสมอง ปกป้องไม่ให้ "เสื่อมถอย" ดีต่อน้ำเหลือง-น้ำไขสันหลัง!
ท่านอนที่ช่วยปกป้องสมองจากภาวะเสื่อมได้ ตามคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
รู้หรือไม่? ท่านอนที่คุณเลือกในแต่ละคืน อาจส่งผลต่อสุขภาพสมองและความจำของคุณในระยะยาว งานวิจัยล่าสุดชี้ว่า ท่านอนมีบทบาทสำคัญในการช่วยขจัดของเสียจากสมอง และลดความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อม
ระบบไกลม์ฟาติก: กลไกชำระล้างสมองขณะหลับ
ระบบที่มีชื่อว่า ไกลม์ฟาติก (Glymphatic system) คือเครือข่ายของหลอดเลือดขนาดเล็กในสมอง ที่ทำหน้าที่เหมือน “ทีมทำความสะอาดกลางคืน” โดยจะขจัดโปรตีนที่เป็นของเสีย เช่น เบต้าอะไมลอยด์ และ เทา ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับโรคอัลไซเมอร์
ในระหว่างที่เราหลับ ช่องว่างระหว่างเซลล์สมองจะขยายตัวขึ้นประมาณ 60% ช่วยให้น้ำไขสันหลังไหลเวียนได้ดีขึ้น และพาของเสียเหล่านี้ออกจากสมองได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ท่านอนตะแคง ช่วยล้างพิษในสมองได้ดีที่สุด
Lev Fomchenkov ซีอีโอของบริษัท Cosmic Nootropic อธิบายว่า ท่านอนมีผลต่อประสิทธิภาพของระบบไกลม์ฟาติกอย่างมาก โดยเฉพาะท่านอนตะแคง ซึ่งช่วยให้น้ำไขสันหลังไหลเวียนได้คล่องตัวที่สุด
“เมื่อเรานอนตะแคง แรงโน้มถ่วงจะช่วยให้ของเหลวไหลผ่านเนื้อเยื่อสมองได้ดีกว่า ส่งผลให้สมองสามารถกำจัดโปรตีนที่เป็นพิษได้ดีขึ้น” เขากล่าว
ในทางตรงกันข้าม การนอนหงายหรือคว่ำอาจขัดขวางการทำงานของระบบนี้ โดยการนอนหงายอาจกดทับบางส่วนของสมอง และการนอนคว่ำอาจทำให้แนวกระดูกสันหลังผิดธรรมชาติ
ของเสียสะสม = ความจำเสื่อม
หากสมองไม่สามารถกำจัดของเสียเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มันจะเริ่มสะสมในบริเวณที่เกี่ยวข้องกับความจำ ซึ่งโปรตีนเบต้าอะไมลอยด์และเทานี้เอง ที่เป็นเครื่องหมายสำคัญของโรคอัลไซเมอร์
Fomchenkov เปรียบเทียบว่า “มันเหมือนกับการไม่ทิ้งขยะเป็นสัปดาห์ — สุดท้ายก็ล้นออกมา” ซึ่งในสมอง การสะสมเหล่านี้จะขัดขวางการสื่อสารของเซลล์ประสาท และนำไปสู่ปัญหาด้านความจำในที่สุด
ปัญหานี้ไม่ได้เกิดเฉพาะในผู้สูงวัยเท่านั้น แม้แต่คนอายุน้อยที่นอนหลับไม่สนิท หรือมีระบบไกลม์ฟาติกที่ทำงานผิดปกติก็อาจเสี่ยงเช่นกัน
- มีคำตอบแล้ว! วิจัยเผย "คนอายุยืน" มักตื่นนอนตอนไหน ใช่ 6 โมงเช้า แบบที่คิดหรือเปล่า?
- หนุ่มภูมิใจเป็นคน “หลับง่าย” ไปตรวจสุขภาพสะดุ้ง หมอเตือน 4 โรคที่ซ่อนอยู่
4 วิธีฝึกท่านอนเพื่อสมองที่ดี
1. ค่อยๆ ฝึกให้นอนตะแคง
หากคุณคุ้นเคยกับการนอนหงายหรือนอนคว่ำ อาจต้องใช้เวลาฝึก โดยสามารถเริ่มต้นด้วยการวางหมอนไว้ด้านหลัง เพื่อป้องกันการกลิ้งกลับไปท่านอนเดิม
2. ใช้หมอนรองศีรษะให้พอดี
หมอนสำหรับนอนตะแคงควรมีความสูงพอดีกับช่องว่างระหว่างคอและไหล่ เพื่อให้แนวกระดูกสันหลังตรง ไม่เงยหน้าหรือก้มเกินไป
3. วางหมอนเล็กระหว่างเข่า
หมอนระหว่างเข่าจะช่วยรักษาแนวกระดูกสะโพกและหลังให้ตรง ลดอาการปวดหลังที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเปลี่ยนท่านอน
4. เลือกที่นอนที่เหมาะกับท่านอนตะแคง
ควรเลือกที่นอนที่นุ่มพอจะรองรับสะโพกและหัวไหล่ได้ แต่ไม่ยวบจนแนวกระดูกสันหลังผิดรูป ที่นอนที่แข็งเกินไปอาจทำให้เกิดจุดกดทับ ส่วนที่นอนที่นิ่มเกินไปก็อาจขาดแรงพยุงที่เหมาะสม
“เป้าหมายของการนอนคือการตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น ไม่ใช่ปวดเมื่อย” Fomchenkov กล่าวเสริม “หากท่านอนทำให้คุณไม่สบายตัว สมองก็จะไม่ได้พักผ่อนอย่างลึกซึ้งเพียงพอสำหรับการล้างพิษในระดับเซลล์”
ท่านอนอาจสำคัญกว่าที่คิด
หลายคนมักให้ความสำคัญกับระยะเวลาการนอน แต่จริงๆ แล้ว “ท่านอน” ก็มีผลต่อสุขภาพสมองไม่แพ้กัน การนอนผิดท่าอาจขัดขวางการล้างพิษของสมอง และส่งผลต่อความจำในระยะยาว
“บางคนคิดว่าการตื่นมาแล้วปวดคอเป็นเรื่องปกติของวัยกลางคน แต่จริงๆ แล้ว มันอาจเป็นสัญญาณว่าคุณนอนผิดท่า และกำลังพลาดโอกาสในการดูแลสมองของตัวเอง” Fomchenkov กล่าวปิดท้าย
การปรับท่านอนให้เหมาะสม อาจเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพสมองในระยะยาวที่ง่ายที่สุด แต่ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุด
