นอกจากญี่ปุ่นแล้ว มีประเทศใดอีกบ้างที่อ่าน-เขียนหนังสือจากขวาไปซ้าย?
เวลาพูดถึงการอ่านหรือการเขียน หลายคนอาจคุ้นชินกับการเรียงอักษรจากซ้ายไปขวาแบบภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ
แต่รู้หรือไม่ว่า ยังมีอีกหลายภาษาและหลายประเทศทั่วโลกที่ใช้การเขียนจากขวาไปซ้ายมาอย่างยาวนาน ซึ่งสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละภูมิภาค
หนึ่งในตัวอย่างที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันดีคือ ญี่ปุ่น ซึ่งแม้ปัจจุบันการเขียนแนวนอนจากซ้ายไปขวาจะพบเห็นบ่อย แต่การเขียนหนังสือแบบดั้งเดิมยังคงนิยมเรียงตัวอักษรในแนวตั้งจากขวาไปซ้าย นอกจากญี่ปุ่นแล้ว ยังมีอีกหลายประเทศที่ใช้รูปแบบนี้อย่างจริงจัง

ทิศทางการอ่าน ซ้ายไปขวา หรือขวาไปซ้าย ไม่ได้เป็นเรื่องบังเอิญ แต่สะท้อนระบบอักษร วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของแต่ละภาษา
เราไปดูกันว่า นอกจากญี่ปุ่นแล้ว ภาษา/ชนชาติใดอีกบ้าง ที่ใช้การเขียน/อ่านแบบขวาไปซ้าย ทั้งในปัจจุบันและในอดีต
1) ภาษาสมัยใหม่ที่เขียนจากขวาไปซ้าย (ใช้งานจริงในปัจจุบัน)
มีหลายภาษาในโลกสมัยใหม่ที่ใช้ระบบการเขียนจากขวาไปซ้ายเป็นหลัก โดยส่วนใหญ่เป็นภาษาที่ใช้ อักษรแบบอาหรับ หรือ อักษรฮีบรู ตัวอย่างที่สำคัญได้แก่:

- ภาษาอาหรับ — ใช้ในประเทศตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ เช่น ซาอุดีอาระเบีย, อียิปต์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, โมร็อกโก เป็นต้น
- เปอร์เซีย (ฟาร์ซี) — ใช้ในอิหร่าน ส่วนอัฟกานิสถานใช้ภาษาเกี่ยวข้องอย่างดารี
- อูรดู — ใช้ในปากีสถาน และชุมชนภาษายูรดูในอินเดีย
- ฮีบรู — ใช้ในอิสราเอล ทั้งงานราชการ หนังสือพิมพ์ และวรรณกรรม
- ภาษาอื่น ๆ ที่ใช้ตัวอักษรจากตระกูลอาหรับ เช่น ปัชตู, เคิร์ด (บางระบบ), อูร์ดูที่ผสมกับระบบอื่นในบางบริบท
สรุป: ถ้าคุณเห็นป้ายประเทศที่เขียนด้วยอักษรอาหรับหรือฮีบรู ก็มีโอกาสสูงที่จะอ่านจากขวาไปซ้าย

2) ภาษาที่เขียนแนวตั้งและขวาไปซ้ายแบบดั้งเดิม
ในเอเชียตะวันออก วัฒนธรรมการเขียนแบบดั้งเดิมมักใช้ช่องแนวตั้งที่อ่านจากบนลงล่าง และเมื่อวางเป็นคอลัมน์เรียง จะอ่านจากขวาไปซ้าย ตัวอย่างสำคัญคือ:
- ญี่ปุ่น (ตัวอักษรคันจิ, ฮิรากานะ/คาตาคานะ) — เอกสารดั้งเดิม นิยายโบราณ และงานพิมพ์บางประเภทจะเขียนแนวตั้ง อ่านจากบนลงล่าง โดยคอลัมน์เรียงจากขวาไปซ้าย
- จีนแบบดั้งเดิม — ข้อความเก่า ๆ และงานศิลป์มักเขียนแนวตั้งและอ่านคอลัมน์จากขวาไปซ้าย แต่ปัจจุบันเมื่อตีพิมพ์แนวนอน มักเปลี่ยนเป็นซ้ายไปขวา
- เกาหลี (ฮันกึล) แบบเก่า — เคยนิยมเขียนแนวตั้งเช่นกัน แม้ปัจจุบันแทบทั้งหมดเป็นแนวนอนและซ้ายไปขวาแล้ว
หมายเหตุ: การเขียนแนวตั้ง (vertical writing) แตกต่างจากการเขียนแนวนอนขวาไปซ้าย แต่ผลลัพธ์ทางการอ่านในแง่ของทิศทางคอลัมน์จะให้ความรู้สึกว่าขวาไปซ้ายเมื่อมองจากภาพรวม
3) ภาษาโบราณและระบบตัวอักษรอื่น ๆ ที่ใช้ขวาไปซ้าย
หลายระบบตัวอักษรในอดีตเขียนจากขวาไปซ้าย เช่น ตัวอักษรเฟนีเชียน, อราเมอิก และอักษรอีเบรีย (โบราณ) ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของตัวอักษรหลายตระกูลในตะวันออกกลางและยุโรปบางส่วน
สรุป: แม้บางตัวอักษรจะเปลี่ยนทิศทางหรือวิวัฒนาการไป แต่รูปแบบขวาไปซ้ายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์การเขียนที่แพร่หลายมานาน

4) ข้อยกเว้นและสิ่งที่ควรรู้เมื่อใช้งานจริง
- ผสมทิศทาง (bidirectional text) — ในเอกสารที่มีทั้งภาษา ขวาไปซ้าย และ ซ้ายไปขวา (เช่น อาหรับผสมกับอังกฤษ) จะต้องจัดการทิศทางตัวอักษรอย่างระมัดระวัง โดยใช้มาตรฐาน Unicode BiDi
- การปรับเปลี่ยนตามเวลา — ภาษาบางภาษาเคยเขียนขวาไปซ้าย แต่เปลี่ยนเป็นซ้ายไปขวาเพราะอิทธิพลของตะวันตก เช่น การพิมพ์สมัยใหม่ของจีน, ญี่ปุ่น และเกาหลี
- รูปแบบตั้งใจใช้และความงาม — งานศิลป์, ป้ายโบราณ หรืองานพิมพ์วรรณกรรม มักเลือกทิศทางเพื่อความงามหรืออนุรักษ์ประเพณี
บทสรุป
นอกจากญี่ปุ่น แล้ว ยังมีภาษาอีกหลายภาษาที่เขียน/อ่านจากขวาไปซ้าย ทั้งภาษาในกลุ่มอาหรับและฮีบรูที่ใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
โดยภาษาที่เขียนแบบแนวตั้งในเอเชียซึ่งเมื่อนับคอลัมน์จะให้ผลเหมือนการอ่านขวาไปซ้าย นี่คือความหลากหลายของระบบการเขียนที่สะท้อนวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และเทคโนโลยีการพิมพ์ของมนุษย์