"ท้องลม" คืออะไร? ทำไมตรวจขึ้น 2 ขีด แต่ไม่มีตัวอ่อนในครรภ์
ทำความรู้จัก “ท้องลม” ภาวะการตั้งครรภ์ที่ไม่มีตัวอ่อน แต่หลายคนไม่รู้
เมื่อพูดถึงการตั้งครรภ์ หลายคนมักนึกถึงความสุขที่กำลังจะได้เป็นคุณแม่ แต่ก็มีภาวะหนึ่งที่อาจทำให้ความหวังต้องสะดุดลงกลางคัน นั่นก็คือ “ท้องลม” หรือที่ภาษาแพทย์เรียกว่า Blighted Ovum ภาวะนี้อาจทำให้คุณแม่มือใหม่สับสน ว่าทำไมตรวจแล้วขึ้น “สองขีด” แต่กลับไม่มีตัวอ่อนในครรภ์ วันนี้เรามาเล่าให้ฟังแบบเข้าใจง่าย
ท้องลมคืออะไร?
ท้องลม คือ ภาวะที่ถุงการตั้งครรภ์ถูกสร้างขึ้นตามปกติ แต่กลับไม่มีตัวอ่อนอยู่ภายใน แม้ว่าจะมีการฝังตัวที่มดลูกแล้วก็ตาม คุณแม่ยังคงมีอาการคล้ายตั้งครรภ์ เช่น ประจำเดือนขาด คัดเต้านม คลื่นไส้ หรือแม้แต่ตรวจปัสสาวะขึ้น 2 ขีด แต่เมื่อไปอัลตราซาวด์ กลับพบเพียงถุงการตั้งครรภ์เปล่าๆ
ทำไมถึงเกิดท้องลม?
สาเหตุหลักๆ มักเกี่ยวข้องกับ ความผิดปกติทางโครโมโซม ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงไข่และอสุจิผสมกัน ซึ่งทำให้ตัวอ่อนหยุดพัฒนาไปตั้งแต่ระยะแรก แต่ถุงการตั้งครรภ์ยังคงโตขึ้นเหมือนปกติ ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยง ได้แก่
-
ความผิดพลาดของการแบ่งเซลล์
-
ความผิดปกติของฮอร์โมนหรือมดลูก
-
อายุคุณแม่ที่มากขึ้น โดยเฉพาะหลังอายุ 35 ปี
-
ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ เช่น การสูบบุหรี่ แอลกอฮอล์ หรือสารพิษบางชนิด
อาการที่ควรสังเกต
คุณแม่ที่มีภาวะท้องลมอาจไม่ทันรู้ตัว เพราะอาการเหมือนการตั้งครรภ์ทั่วไป แต่บางรายก็มีสัญญาณเตือน เช่น
-
เลือดออกกะปริบกะปรอย
-
ปวดท้องน้อยเป็นระยะ
-
อาการแพ้ท้องที่เคยมีอาจค่อยๆ หายไป
การตรวจวินิจฉัย
สิ่งสำคัญคือการ อัลตราซาวด์ ซึ่งจะทำให้เห็นว่ามีเพียงถุงการตั้งครรภ์ แต่ไม่พบตัวอ่อน หรือไม่พบการเต้นของหัวใจ แม้ว่าค่าฮอร์โมน hCG จะยังสูงอยู่ก็ตาม แพทย์อาจนัดติดตามซ้ำ เพื่อยืนยันผลอย่างชัดเจนก่อนตัดสินใจรักษา
วิธีจัดการเมื่อพบว่าเป็นท้องลม
-
รอให้แท้งเองตามธรรมชาติ : ในบางกรณี ร่างกายจะขับถุงการตั้งครรภ์ออกมาเอง
-
ใช้ยา : เพื่อช่วยให้ร่างกายขับเนื้อเยื่อที่เหลืออยู่
-
ขูดมดลูก : เป็นวิธีที่แพทย์เลือกใช้เพื่อให้มั่นใจว่ามดลูกสะอาด ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
สิ่งที่สำคัญคือการได้รับการดูแลจากแพทย์และการฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะภาวะนี้อาจกระทบความรู้สึกคุณแม่ได้มาก
ป้องกันท้องลมได้ไหม?
แม้จะไม่สามารถป้องกันได้ 100% แต่คุณแม่สามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการ
-
ตรวจสุขภาพก่อนวางแผนตั้งครรภ์
-
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ
-
งดแอลกอฮอล์ บุหรี่ และสารเสพติด
-
ดูแลโรคประจำตัวและพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
สรุป
“ท้องลม” เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ และไม่ได้หมายความว่าคุณแม่จะไม่สามารถมีลูกได้อีกในอนาคต การทำความเข้าใจและดูแลสุขภาพทั้งกายใจ พร้อมปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิด จะช่วยให้พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ครั้งใหม่ที่ปลอดภัยมากขึ้น