เนื้อหาในหมวด ข่าว

ผลไม้พิทักษ์ลำไส้ \

ผลไม้พิทักษ์ลำไส้ "ชนิดแรกของโลก" ที่ผ่านเกณฑ์ EU ราชาไฟเบอร์ยังสู้ไม่ได้!

วิจัยล่าสุด ผลไม้พิทักษ์ลำไส้ ชนิดแรกของโลกที่ EU ยอมรับ ช่วยขับถ่ายได้ผลดีกว่ากินใยอาหารเสริมไซเลียมฮัสก์ 

หลายคนมักมีปัญหาลำไส้ทำงานไม่ปกติหรือท้องผูก การกินผลไม้สามารถช่วยได้! แพทย์ระบุว่า การกินกีวีเขียววันละ 2 ลูก (ประมาณเนื้อผล 200 กรัม) สามารถช่วยให้ลำไส้ทำงานปกติขึ้น โดยเพิ่มความถี่ในการขับถ่าย ทำให้ระบบขับถ่ายคล่องตัวมากขึ้น ล่าสุด กีวีเขียวได้รับการรับรองด้านสุขภาพจากสหภาพยุโรป (EU Health Claim) เมื่อเดือนมิถุนายนปีนี้ กลายเป็น ผลไม้สดชนิดแรกของโลกที่ได้รับการยืนยันจาก EU ว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพลำไส้

นพ.หลี่ ป๋อเสียน (李柏賢) เลขาธิการสมาคมเวชศาสตร์ทางเดินอาหารไต้หวัน และแพทย์ประจำภาควิชาโรคทางเดินอาหาร ตับ และทางเดินน้ำดี โรงพยาบาลฉางเกิง เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า สำนักงานความปลอดภัยด้านอาหารยุโรป (EFSA) ได้พิจารณา 18 งานวิจัยทางคลินิก และพบว่า 6 งานวิจัยหลักยืนยันตรงกันว่า การกินกีวีเขียววันละ 2–4 ลูก สามารถเพิ่มความถี่ในการขับถ่ายได้อย่างมีนัยสำคัญ

ผลการทดลองทางคลินิกหลายประเทศ ยังชี้ว่า กลุ่มที่กินกีวีเขียวมีจำนวนครั้งในการขับถ่ายเฉลี่ยมากขึ้น 1.7 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งได้ผลดีกว่าการใช้ ไซเลี่ยมฮัสก์ (Psyllium Husk) ที่เพิ่มเฉลี่ยเพียง 0.9 ครั้ง อีกทั้งกีวีเขียวยังจัดเป็นผลไม้ Low FODMAP ไม่ค่อยก่อให้เกิดอาการท้องอืด จึงอ่อนโยนและรับประทานได้ดีกว่าใยอาหารเสริม

ไซเลี่ยมฮัสก์ (Psyllium Husk) คือใยอาหารที่สกัดจากเปลือกเมล็ดของพืชที่ชื่อว่า เทียนเกล็ดหอย (Plantago ovata) นิยมนำมาใช้เป็นยาระบาย เพื่อรักษาอาการท้องผูกและปัญหาการขับถ่ายที่ผิดปกติ ถูกขนานนามว่าเป็น ราชาแห่งไฟเบอร์

นพ.หลี่ อธิบายเพิ่มเติมว่า การตรวจสอบเพื่ออนุมัติคำกล่าวอ้างด้านสุขภาพของสหภาพยุโรปเข้มงวดมาก และมีเพียงไม่กี่ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านเกณฑ์ การที่กีวีเขียวได้รับการรับรองครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ “ผลไม้สด” ได้รับการยืนยันด้านสุขภาพจาก EU แสดงถึงทั้งหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และการรับรองจากหน่วยงานทางการ ว่าอาหารธรรมชาติก็สามารถดูแลสุขภาพลำไส้ได้จริง

นอกจากนี้ เขายังอ้างถึงงานวิจัยนานาชาติที่ตีพิมพ์ใน The American Journal of Gastroenterology พบว่าผู้ป่วยท้องผูกเรื้อรังหรือกลุ่มอาการลำไส้แปรปรวนชนิดท้องผูก เมื่อกินกีวีเขียววันละ 2 ลูก ความถี่ในการขับถ่ายเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.5 ครั้งต่อสัปดาห์ พร้อมลดอาการไม่สบายท้องลงอย่างชัดเจน

งานวิจัยของไต้หวันอีกฉบับที่ตีพิมพ์ใน Asia Pacific Journal of Clinical Nutrition ก็พบว่า ผู้ป่วยที่กินกีวีเขียววันละ 2 ลูกหลังอาหาร ติดต่อกัน 4 สัปดาห์ ความถี่การขับถ่ายเพิ่มจาก 2.8 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็น 4.4 ครั้งต่อสัปดาห์ และเวลาที่อุจจาระผ่านลำไส้ใหญ่ลดลงเฉลี่ยราว 8 ชั่วโมง ส่งผลให้การทำงานของลำไส้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

นพ.หลี่ สรุปว่า กีวีเขียวเป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีงานวิจัยทางคลินิกมากที่สุด และเป็นตัวช่วยธรรมชาติที่อ่อนโยนต่อระบบย่อยอาหาร สามารถกระตุ้นการทำงานของลำไส้และช่วยให้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้น แต่หากมีอาการท้องผูกเรื้อรังหรือรุนแรง ควรเข้ารับการประเมินและรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ