เนื้อหาในหมวด ข่าว

อ่านไม่ผิด! \

อ่านไม่ผิด! "มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก" ถูกฟ้องโดย "มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก" ในคดีสุดแปลก

ชายที่มีชื่อเดียวกับ "มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก" ยื่นฟ้องผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก หลังจากที่โซเชียลมีเดียดังกล่าวมักกล่าวหาว่าเขา "ปลอมตัว" เป็นมหาเศรษฐีรายนี้

เอกสารในศาลคดีนี้ยิ่งทำให้ทนายความปวดหัว เพราะทั้งสองฝ่ายใช้ชื่อเดียวกัน

มาร์ก เอส. ซักเคอร์เบิร์ก ทนายความคดีล้มละลายจากรัฐอินเดียนาของสหรัฐฯ ระบุว่า บัญชีเฟซบุ๊กของสำนักงานกฎหมายของเขาถูกปิดใช้งานถึง 5 ครั้งในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ บัญชีส่วนตัวของเขาก็ถูกล็อกหรือถูกจำกัดการใช้งานบนเฟซบุ๊กถึง 4 ครั้งในช่วงเวลาดังกล่าว

และเขาไม่ได้โวยวายเพียงเพราะถูกจำกัดการดูโพสต์ของเพื่อนเท่านั้น แต่เป็นเพราะเรื่องนี้ทำให้เขาเสียเงินหลายพันดอลลาร์จากธุรกิจที่สูญเสียไป

ซักเคอร์เบิร์ก ระบุว่า เขาต้องเผชิญกับวังวนแบบนี้กับเฟซบุ๊กมานานกว่าทศวรรษ แต่จุดที่ทำให้ทนไม่ไหวเกิดขึ้นเมื่อเงินกว่า 11,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 350,000 บาท) ที่เขาหามาอย่างยากลำบาก สูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์

เขาได้จ่ายเงินไปเพื่อโฆษณาสำนักงานกฎหมายของตนบนโซเชียลมีเดีย แต่กลับถูกระงับเพจอีกครั้ง

“มันไม่ตลกเลย” ซักเคอร์เบิร์กบอกกับ WTHR-TV “ไม่ใช่เมื่อพวกเขาเอาเงินของผมไป เรื่องนี้ทำให้ผมโกรธมาก

“เหมือนกับการไปซื้อป้ายโฆษณาข้างทาง จ่ายเงินให้เจ้าของป้าย แล้วพวกเขาก็มาปิดป้ายด้วยผ้าผืนใหญ่

คุณไม่ได้ประโยชน์จากสิ่งที่จ่ายไป มันไม่ยุติธรรม ไม่ถูกต้อง และต้องหยุดเสียที”

ทนายความรายนี้กล่าวว่าเขารู้สึกเหนื่อยหน่ายกับการที่เฟซบุ๊กกล่าวหาว่าเขา "ปลอมตัวเป็นคนมีชื่อเสียง" และ "ใช้ชื่อปลอม" แทบจะทุกเดือน

เขาอธิบายว่าได้ส่งบัตรประชาชน บัตรเครดิต และภาพถ่ายหลายรูปของตัวเอง เพื่อพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจล้อเลียนซีอีโอของ Meta

ชายชาวสหรัฐฯ รายนี้ยืนยันว่าเขาใช้ชื่อ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก มาก่อนมหาเศรษฐีวัย 41 ปีเสียอีก และเมื่ออาชีพทนายความของเขาเริ่มต้นเมื่อ 38 ปีก่อน อีกฝ่ายยังเป็นเพียงเด็กทารก

ซักเคอร์เบิร์กกล่าวด้วยความโกรธว่า “ผมมีเรื่องสำคัญกว่าการฟ้องเฟซบุ๊ก พวกเขามีเงิน มีทนาย มีทรัพยากรมากกว่าผม

ผมไม่อยากมีปัญหากับพวกเขา แต่ผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้พวกเขาหยุด ผมไม่รู้ว่าจะเรียกร้องความสนใจของพวกเขาอย่างไร”

เขาระบุว่าครั้งล่าสุดที่บัญชีของเขาถูกล็อก เขาต้องรอกว่า 6 เดือนกว่าจะได้ใช้งานอีกครั้ง

ซักเคอร์เบิร์กจึงยื่นฟ้องบริษัทแม่ของเฟซบุ๊กคือ Meta ที่ศาล Marion Superior Court กล่าวหาว่าบริษัทละเลยหน้าที่และผิดสัญญาในการระงับบัญชีของเขาโดยไม่มีเหตุผลที่ถูกต้อง

ในข้อเรียกร้องอื่นๆ เขาต้องการให้ Meta คืนเงิน 11,000 ดอลลาร์ที่เสียไป และจ่ายค่าทนายความของเขา

อย่างไรก็ดี เขาก็ยอมรับว่า หากมหาเศรษฐีรายนี้ขอโทษด้วยการเชิญเขาขึ้นเรือยอทช์ส่วนตัว เขาก็อาจรับข้อเสนอ โดยกล่าวว่า “ถ้าเขาจะบินมาที่นี่เพื่อขอโทษ หรือให้ผมใช้เวลา 1 สัปดาห์บนเรือเพื่อขอโทษ ผมคงรับข้อเสนอนั้น”

ทนายความรายนี้ยังให้สัมภาษณ์กับ New York Post ว่า เขาแทบไม่อยากเชื่อว่าบริษัทอย่าง Meta ซึ่งควรจะ “เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี” กลับไม่สามารถหาทางแก้ปัญหานี้ได้

“ปกติคุณอาจจะคิดว่า ก็แค่เฟซบุ๊ก ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ครั้งนี้มันกระทบต่อรายได้ของผม เพราะผมจ่ายเงินค่าโฆษณาเพื่อหาลูกค้าเข้ามาที่สำนักงาน” เขากล่าว

“พวกเขาเอาเงินของผมไป แล้วหลังจากนั้นก็มาปิดบัญชี โดยอ้างว่าผมปลอมตัวเป็นคนดัง ใช้ชื่อปลอม และละเมิดมาตรฐานชุมชน

และทุกครั้งที่ถูกปิดบัญชี ผมก็ได้รับข้อความเดิม ๆ เหมือนกับว่าพวกเขาตั้งใจทำ แม้ผมมั่นใจว่าไม่ใช่ แต่ความรู้สึกมันเป็นแบบนั้น”

ด้านโฆษกของ Meta กล่าวกับสื่อว่า บริษัทได้รับคำร้องเรียนจากซักเคอร์เบิร์กแล้วและกำลังตรวจสอบ พร้อมยืนยันว่าบัญชีของทนายความรายนี้ถูกเปิดใช้งานอีกครั้งหลังจากพบว่าได้ถูกปิดด้วยความผิดพลาด

“เราทราบดีว่ามีมาร์ก ซักเคอร์เบิร์กมากกว่า 1 คนบนโลกนี้ และเรากำลังหาทางแก้ไขปัญหา เราได้เปิดใช้งานบัญชีของมาร์ก ซักเคอร์เบิร์กแล้ว หลังจากพบว่าเกิดความผิดพลาดในการปิดบัญชี

เราขอขอบคุณคุณซักเคอร์เบิร์กที่อดทนต่อปัญหานี้ และกำลังพยายามหาทางป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต”

รู้จัก อัจฉริยะด้าน AI ผู้ปฏิเสธข้อเสนอ 1.5 พันล้านดอลลาร์ จากมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก

รู้จัก อัจฉริยะด้าน AI ผู้ปฏิเสธข้อเสนอ 1.5 พันล้านดอลลาร์ จากมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก

รู้จัก "แอนดรูว์ ทัลล็อค" นักวิทยาการคอมพิวเตอร์และผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ผู้ปฏิเสธข้อเสนอ 1.5 พันล้านดอลลาร์จาก "มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก"

“เฟซบุ๊ก” เจ็บหนัก หลังบริษัทยักษ์ใหญ่แห่บอยคอต เหตุไม่แบน Hate Speech

“เฟซบุ๊ก” เจ็บหนัก หลังบริษัทยักษ์ใหญ่แห่บอยคอต เหตุไม่แบน Hate Speech

หลังจากที่มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของบริษัทเฟซบุ๊กประกาศไม่แบนข้อความที่สร้างความเกลียดชังบนแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกจึงประกาศยกเลิกการลงโฆษณาบนเฟซบุ๊กเพื่อประะท้วงและแสดงจุดยืนของตัวเอง จนซักเคอร์เบิร์กต้องรีบเปลี่ยนแปลงกฎการใช้งานดังกล่าว