"กลิ่นตัวตามวัย" แพทย์เตือน อาหารที่เป็นต้นเหตุ กินเยอะยิ่งแก่ไว เหงื่อไม่ออกก็ยังเหม็น!

17/09/2025 (10:13 น.)

แพทย์เตือน! 5 สิ่งที่ควรเลี่ยงหลังอายุ 52 เพราะอาจเป็นต้นเหตุ ‘กลิ่นตัวตามวัย’

“ทำไมรู้สึกว่าร่างกายมีกลิ่นแปลกๆ ทั้งที่ไม่ได้ออกแรงอะไรมาก?” หลายคนเมื่ออายุมากขึ้น อาจเริ่มรู้สึกว่าร่างกายเริ่มเปลี่ยนไป หนึ่งในปัญหาที่พบได้บ่อยคือ “กลิ่นตัวตามวัย” หรือที่บางคนเรียกว่า “กลิ่นคนแก่” แม้ในทางการแพทย์จะยังไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจน แต่ความเปลี่ยนแปลงนี้มักมีสาเหตุจากพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตประจำวัน

1. อาหารทอดและของมัน

อาหารทอดมีรสชาติอร่อยและกลิ่นหอม แต่มีปริมาณไขมันสูง โดยเฉพาะ ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ ที่ส่งผลเสียต่อระบบเผาผลาญ เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะเผาผลาญช้าลง ไขมันส่วนเกินจึงสะสมและกลายเป็นภาระของตับและระบบย่อยอาหาร

การย่อยไขมันไม่สมบูรณ์ อาจทำให้เกิดของเสียสะสมในร่างกาย ซึ่งจะถูกขับออกทางเหงื่อและลมหายใจ ส่งผลให้เกิดกลิ่นตัว ควรเลือกวิธีปรุงอาหารแบบ นึ่ง ต้ม หรืออบ แทนการทอด

2. เนื้อแดงและเนื้อแปรรูป

เนื้อวัว เนื้อหมู รวมถึงไส้กรอก แฮม หรือหมูแผ่น เป็นแหล่งของ ไขมันอิ่มตัว เกลือ และสารกันบูด ที่ร่างกายต้องใช้พลังงานมากในการย่อย เมื่ออวัยวะภายใน เช่น ตับและไต ทำงานหนักในการขจัดของเสีย สารเหล่านี้ก็จะระบายออกผ่านผิวหนังและลมหายใจ กลายเป็นกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์

แนะนำให้ลดการบริโภคเนื้อแปรรูป หันมาเลือกโปรตีนจาก ปลา ไก่ หรือพืช เพื่อช่วยให้ร่างกายสะอาดจากภายใน

3. อาหารรสจัดและกลิ่นแรง

กระเทียม หัวหอม และพริก แม้จะมีคุณประโยชน์ แต่เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเกิดกระบวนการเมตาบอไลต์ที่ปล่อยสารระเหยออกมาผ่านเหงื่อและลมหายใจ โดยเฉพาะในผู้สูงวัยที่ระบบย่อยทำงานช้าลง อาหารประเภทนี้อาจทำให้เกิดกลิ่นตัวแรงขึ้น

หากคุณมีปัญหาเรื่องกลิ่นตัว ควรจำกัดอาหารรสจัดหรือมีกลิ่นแรง และหันมาเลือกอาหารที่ย่อยง่ายกว่า

4. ขนมหวานและอาหารแปรรูป

อาหารที่มีน้ำตาลสูงและผ่านกระบวนการมาก เช่น ขนมเค้ก น้ำอัดลม หรือของว่างบรรจุซอง อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สมดุล ส่งผลต่อ การทำงานของอินซูลิน และเพิ่มการอักเสบในร่างกาย

นอกจากนี้ยังเพิ่มปริมาณ อนุมูลอิสระ ซึ่งเร่งกระบวนการชรา และเปลี่ยนกลิ่นของร่างกายจากภายใน การเลือกอาหารธรรมชาติที่ไม่ผ่านการแปรรูปจะช่วยให้ร่างกายดูอ่อนเยาว์และมีกลิ่นตัวที่ดีขึ้น

5. แอลกอฮอล์

การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บ่อยๆ ทำให้ ตับต้องทำงานหนัก ในการขจัดสารพิษ และแอลกอฮอล์ส่วนหนึ่งจะถูกขับออกทางเหงื่อและลมหายใจ ส่งผลให้ร่างกายมีกลิ่นเฉพาะตัวที่ไม่พึงประสงค์

เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ความสามารถในการฟื้นตัวของตับจะลดลง จึงควรลดการดื่ม หรือควบคุมปริมาณให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย

• หลายคนไม่รู้ตัว! หมอย้ำอีกครั้ง "กลิ่นแก่" ไม่ต้องแก่ก็มีได้ แนะรีบกำจัดง่ายๆ ด้วยเคล็ดลับนี้
•  ลูกวัย 8 เดือน มีกลิ่นแปลกๆ อาบน้ำไม่หาย ไปหาหมอถึงรู้เป็น "โรค" เพราะลืมล้างส่วนนั้น

“กลิ่นตัวตามวัย” ไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่เป็นสัญญาณจากร่างกายที่สะท้อนถึงพฤติกรรมการกินและสุขภาพโดยรวม การเลือกอาหารที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น เช่น อาหารมัน แอลกอฮอล์ และของแปรรูป จะช่วยลดปัญหานี้ได้

หากคุณเริ่มสังเกตว่าร่างกายเปลี่ยนไป อย่าลังเลที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และหากมีอาการผิดปกติร่วมด้วย ควรพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง