ตำนาน "เต้าสวย" สะกดใจ "เยี่ยจื่อเหมย" นางเอก "โอมเนื้อหนังมังผี" ปัจจุบันรวยมาก
ย้อนตำนาน เยี่ยจื่อเหมย (Amy Yip) นางเอก "โอมเนื้อหนังมังผี" สู่ชีวิตปัจจุบัน
หากพูดถึงดาวดังแห่งวงการภาพยนตร์ฮ่องกงในยุค 90s ชื่อของ เยี่ยจื่อเหมย (Amy Yip) ย่อมเป็นที่จดจำในฐานะนักแสดงสาวสุดเซ็กซี่ผู้เป็นไอคอนแห่งยุค ด้วยภาพลักษณ์อันโดดเด่นและหน้าอกที่ได้รับการขนานนามว่าสวยที่สุดในเอเชีย ทำให้เธอกลายเป็นตำนานที่ยังคงถูกกล่าวขานมาจนถึงทุกวันนี้
บทความนี้จะพาไปย้อนรอยเส้นทางชีวิตของเธอ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นในวงการ ผลงานที่สร้างชื่อเสียง โดยเฉพาะภาพยนตร์อีโรติกคลาสสิกอย่าง "โอมเนื้อหนังมังผี" และสำรวจชีวิตของเธอในปัจจุบันหลังจากหันหลังให้กับวงการบันเทิง
จุดเริ่มต้นและเส้นทางสู่การเป็นดาว
เยี่ยจื่อเหมย เกิดเมื่อปี 1966 เธอเริ่มต้นเส้นทางในวงการบันเทิงจากการเข้าอบรมการแสดงกับสถานีโทรทัศน์เอทีวี (ATV) ในปี 1985 ในช่วงแรกเธอได้รับบทบาทสมทบในละครโทรทัศน์หลายเรื่อง ก่อนที่จะเริ่มเป็นที่รู้จักจากรูปร่างอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ
จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญเกิดขึ้นเมื่อเธอตัดสินใจก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์ และรับบทบาทที่เน้นภาพลักษณ์ความเซ็กซี่ ซึ่งกลายเป็นใบเบิกทางที่ทำให้ชื่อของเธอดังเปรี้ยงปร้างไปทั่วเอเชียอย่างรวดเร็ว
ไอคอนแห่งยุคกับผลงานอีโรติกสร้างชื่อ
เยี่ยจื่อเหมยได้สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการภาพยนตร์ฮ่องกงด้วยผลงานภาพยนตร์อีโรติกระดับตำนานหลายเรื่อง ซึ่งไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จด้านรายได้ แต่ยังทำให้เธอกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเซ็กซี่แห่งยุค 90s
- โอมเนื้อหนังมังผี (Erotic Ghost Story, 1990): ภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียงให้เธอโด่งดังเป็นพลุแตก กับบทบาทที่ผสมผสานความสวยงาม ความเซ็กซี่ และความน่ากลัว กลายเป็นผลงานมาสเตอร์พีซที่แฟนหนังจดจำได้ดีที่สุด
- เป๋ห่าวเป็นเจ้าพ่อ (To Be Number One, 1991): แม้จะเป็นภาพยนตร์แนวแก๊งสเตอร์ แต่บทบาทของเธอก็ขโมยซีนและเป็นที่จดจำอย่างมาก แสดงให้เห็นว่าเธอสามารถแสดงในภาพยนตร์กระแสหลักได้เช่นกัน
- อาบรักกระบี่คม (Sex and Zen, 1991): อีกหนึ่งภาพยนตร์อีโรติกอิงประวัติศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย และตอกย้ำภาพลักษณ์ดาวเซ็กซี่เบอร์หนึ่งของเอเชียในยุคนั้น
ดาวดังร่วมยุคสมัยและความสำเร็จในภาพยนตร์กระแสหลัก
ในยุคที่เยี่ยจื่อเหมยโด่งดัง วงการภาพยนตร์ฮ่องกงยังมีนักแสดงสาวที่มีภาพลักษณ์เซ็กซี่อีกหลายคน เช่น จง ลี่ถี (Christy Chung) และซู ฉี (Shu Qi) แต่เธอก็ยังคงรักษาความนิยมในระดับแถวหน้าไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
นอกเหนือจากภาพยนตร์อีโรติก ความสำเร็จของเธอยังต่อยอดไปสู่การแสดงในภาพยนตร์กระแสหลักประกบนักแสดงชื่อดังมากมาย เช่น การร่วมงานกับโจว ซิงฉือ ในภาพยนตร์ตลกหลายเรื่อง ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถทางการแสดงที่หลากหลายของเธอ
ชีวิตปัจจุบันของ เยี่ยจื่อเหมย
หลังจากโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่นาน เยี่ยจื่อเหมยตัดสินใจหันหลังให้กับแสงสีในราวปี 1994 เพื่อไปใช้ชีวิตส่วนตัวกับนายแพทย์หลี่ เซี้ยะเฉียง ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ แฟนหนุ่มที่คบหากันมาอย่างยาวนาน
เธอดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่ายและเป็นส่วนตัว ไม่เคยหวนกลับมารับงานแสดงอีกเลย แม้จะมีข่าวเศร้าในปี 2020 ว่าแฟนหนุ่มของเธอได้เสียชีวิตลงแล้ว ปัจจุบันมีรายงานว่า เยี่ยจื่อเหมย ยังคงใช้ชีวิตอย่างสงบสุข และบริหารจัดการทรัพย์สินและการลงทุนของเธอต่อไป ถือเป็นการปิดฉากตำนานดาวเซ็กซี่แห่งเอเชียอย่างสมบูรณ์
เยี่ยจื่อเหมย ได้ลงทุนอย่างจริงจังในธุรกิจโรงแรมที่รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย โดยมีรายละเอียดดังนี้:
-
เจ้าของและนักลงทุนโรงแรม: เธอเป็นนักลงทุนใน The Leith Penang โรงแรมบูทีคแห่งหนึ่ง และล่าสุดได้ประกาศแผนการลงทุนในโรงแรมแห่งที่สองซึ่งจะเป็นโรงแรมธีมทุเรียนแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีแผนจะลงทุนในโรงแรมทั้งหมด 4 แห่งในรัฐปีนัง ซึ่งแต่ละแห่งจะมีธีมที่แตกต่างกันออกไป
-
ผู้บริหารและแบรนด์แอมบาสเดอร์: นอกจากจะเป็นนักลงทุนแล้ว เธอยังดำรงตำแหน่งกรรมการที่ไม่มีอำนาจบริหาร (Non-executive director) และเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับ Artiste Hotel Management ในมาเลเซียอีกด้วย
แม้จะไม่มีการเปิดเผยตัวเลขทรัพย์สินสุทธิที่แน่ชัด แต่จากข้อมูลการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่าเธอเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยและประสบความสำเร็จอย่างสูงในเส้นทางอาชีพใหม่ของเธอ
