อายุเท่าไหร่? เด็กควรเริ่มเรียนรู้เรื่อง "หาเงิน" เผยคำตอบ ที่พ่อแม่หลายคนไม่เคยคิดถึง
ควรสอนลูกเรื่อง "หาเงิน" ตั้งแต่อายุเท่าไหร่? กูรูเผยคำตอบ ที่พ่อแม่หลายคนต้องแปลกใจ
พ่อแม่ไทยจำนวนไม่น้อยมุ่งมั่นเก็บเงินสร้างทรัพย์สินไว้ให้ลูกในอนาคต แต่กลับลืมสอนเรื่องสำคัญอย่าง "การหาเงิน" และ "การใช้เงินอย่างรู้คุณค่า"
ในสังคมไทย ผู้ปกครองมักหวังให้ลูกประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะในด้านการเงิน แต่การมุ่งเก็บสะสมทรัพย์สินให้ลูกโดยไม่สอนวิธีบริหารเงิน อาจทำให้ลูกไม่มีความพร้อมรับมือกับโลกจริงเมื่อเติบโต
ทำไมควรเริ่มสอนเรื่องเงินตั้งแต่เด็ก?
การปลูกฝังแนวคิดด้านการเงินตั้งแต่วัยเด็กจะช่วยให้ลูกเข้าใจบทบาทของเงิน และรู้วิธีสร้างมูลค่าจากแรงงานของตัวเอง เด็กจะสามารถสะสมประสบการณ์ทางการเงิน และพัฒนาทักษะการวางแผนได้ตั้งแต่อายุยังน้อย
บทเรียนแรก เงินคืออะไร?
ก่อนจะสอนวิธีหาเงิน เด็กควรรู้ก่อนว่า "เงินคืออะไร" เราสามารถเริ่มจากการให้ลูกเรียนรู้การจำแนกธนบัตรจากสี ขนาด และค่าเงิน จากนั้นเมื่อเด็กอายุประมาณ 3–4 ปี พ่อแม่ควรพาไปซื้อของพร้อมใช้เงินสดในการจ่าย เพื่อให้เข้าใจว่า การจะได้ของเล่นหรือขนม ต้องจ่ายเงินก่อน
ตอบลูกให้ตรงไปตรงมา: “เงินมาจากไหน?”
เด็กหลายคนมีความเข้าใจว่า พ่อแม่คือแหล่งเงินที่ไม่มีวันหมด เมื่ออยากได้ของอะไรก็เรียกร้องทันที ซึ่งเป็นเพราะเด็กยังไม่เข้าใจที่มาของเงิน
ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินอย่าง Rachel Cruze ระบุว่า "เราควรสอนลูกให้รู้ว่าเงินได้มาจากการทำงาน" เด็กจะได้เข้าใจว่าเงินไม่ได้เกิดขึ้นเอง แต่ต้องใช้แรงกาย แรงใจ แลกมาด้วยความพยายาม และเงินคือเครื่องมือในการแลกเปลี่ยนสิ่งจำเป็นในชีวิต
- วิจัยฮาร์วาร์ดชี้ เด็กที่ชอบทำ 3 สิ่งนี้ "ฉลาดกว่าเพื่อนมาก" พ่อแม่ควรรู้ อย่าขวางสมองเฉิดฉาย!
- ครูใหญ่ขอเคล็ดลับ สาวเลี้ยงลูกให้เป็นอันดับ 1 ของโรงเรียน ไม่กั๊กบอก 3 สิ่งที่ทำทุกวัน
วางแผนเก็บเงินเพื่อเป้าหมาย
หากลูกอยากได้ของเล่นหรือของชิ้นหนึ่ง แทนที่จะซื้อให้ทันที ลองให้ลูกช่วยคิดว่า สิ่งนั้นจำเป็นแค่ไหน แล้วช่วยลูกตั้งเป้าหมายเก็บเงิน เช่น ภายใน 30 วัน พร้อมแนะนำวิธีที่ลูกสามารถช่วยหาเงินได้ เช่น งานเล็ก ๆ ภายในบ้าน
เรียนรู้จากการลงมือทำ “เด็กเล็กก็เริ่มต้นได้”
การให้เด็กลองหาเงินจากของใกล้ตัว เช่น ขายขนม ทำของประดิษฐ์ วาดภาพ หรือส่งบทความไปยังนิตยสารเด็ก เป็นวิธีปลูกฝังให้เด็กเข้าใจการหาเงินจากความสามารถของตนเอง
นอกจากนี้ งานบ้านก็สามารถนำมาใช้เป็นการสอนเรื่องเงินได้ แต่ควรแยกความรับผิดชอบส่วนตัว เช่น การแปรงฟัน เก็บของเล่น ออกจากงานที่เด็กสามารถเลือกทำและขอรับค่าตอบแทน เช่น ช่วยล้างจาน หรือถูพื้น เพื่อไม่ให้เด็กเข้าใจผิดว่าทุกอย่างต้องมีค่าจ้าง
สอนหาเงิน = สร้างรากฐานชีวิตที่มั่นคง
การสอนลูกหาเงินไม่ใช่แค่เรื่องการเงินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสอนความรับผิดชอบ การวางแผน การเจรจาต่อรอง และการพึ่งพาตัวเอง หากเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ ลูกจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะทางการเงิน ไม่ตื่นตระหนกเมื่อต้องเจอกับปัญหาชีวิต และรู้จักสร้างอนาคตของตัวเอง
