เนื้อหาในหมวด ข่าว

3 ผักราคาประหยัด แต่เป็นเสมือน \

3 ผักราคาประหยัด แต่เป็นเสมือน "คลังยาปฏิชีวนะธรรมชาติ" ของทั้งครอบครัว

ผัก 3 ชนิดราคาย่อมเยา ที่มักถูกขนานนามว่าเป็น “เพนิซิลลินธรรมชาติ” ของครอบครัว

ช่วงที่อากาศแปรปรวนง่าย ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นหวัด ไอ ไข้หวัดใหญ่ และโรคทางเดินหายใจต่าง ๆ นอกจากการรักษาความอบอุ่น พักผ่อน และออกกำลังกายแล้ว การเลือกอาหารที่เหมาะสมก็มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

แทนที่จะพึ่งยาปฏิชีวนะซึ่งอาจก่อผลข้างเคียงและเชื้อดื้อยา หลายคนจึงหันมาพึ่งพาอาหารจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะผัก 3 ชนิดราคาย่อมเยานี้ ที่มักถูกขนานนามว่าเป็น “เพนิซิลลินธรรมชาติ” ของบ้านเรา

  • ต้นอ่อนของกระเทียมต้น– รสหวานกรุบ เพิ่มการไหลเวียนของเลือด

  • ต้นอ่อนของกระเทียมต้นคือส่วนลำต้นนุ่มที่งอกออกมาจากกลางกระเทียมต้น มีรสหวาน กรอบ และนุ่มกว่าส่วนลำต้นหลัก ต้นอ่อนชนิดนี้อุดมไปด้วยสารกำมะถันและวิตามินซี 2 สารอาหารที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณสมบัติต้านแบคทีเรียและต้านอักเสบ นอกจากนี้ ยังช่วยให้ท้องอุ่น ส่งเสริมการย่อยอาหาร และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้ดี

    นักโภชนาการ เหงียน ถิ แทง บิ่ญ ผู้เชี่ยวชาญจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม กล่าวว่า "กระเทียมต้นและต้นอ่อนของกระเทียมต้นมักถูกมองข้าม แต่แท้จริงเป็นวัตถุดิบมีค่าในฤดูหนาว หากนำมาปรุงในเมนูผัด ต้ม หรือสลัด จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารแข็งแรงขึ้น และจำกัดการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียในลำไส้"

  • ต้นอ่อนกระเทียม – “นักรบต้านแบคทีเรีย” จากธรรมชาติ

  • ต้นอ่อนกระเทียมคือกระเทียมอ่อนที่มีรสเผ็ดกรอบ และมีกลิ่นหอมเข้มข้น การศึกษาพบว่าต้นอ่อนกระเทียมมีสารอัลลิซิน ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ต้านแบคทีเรียอย่างแรง มีประสิทธิภาพเพียงเล็กน้อยน้อยกว่าปริมาณหนึ่งของเพนิซิลลิน ด้วยเหตุนี้ ต้นอ่อนกระเทียมจึงช่วยป้องกันโรคที่พบบ่อยในฤดูใบไม้ร่วง เช่น ไข้หวัด ไอ เจ็บคอ หรือการอักเสบในลำไส้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ เจิ่น วัน ฟุก โรงพยาบาลเซนต์พอล กรุงฮานอย กล่าวว่า "อัลลิซินในกระเทียมและต้นอ่อนกระเทียมเป็นสารต้านเชื้อแบคทีเรียจากธรรมชาติที่มีคุณค่า ไม่เพียงช่วยกำจัดแบคทีเรียบางชนิดที่ก่อโรค แต่ยังช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้ด้วย ประชาชนสามารถนำต้นอ่อนกระเทียมมาปรุงอาหารประจำวันแทนการพึ่งยาปฏิชีวนะมากเกินไป"

    ต้นอ่อนกระเทียมสามารถนำไปผัดกับเนื้อ ต้มในซุป หรือนำมาดองเป็นผักเค็มได้ โดยควรปรุงให้สุกพอดีเพื่อรักษาสารออกฤทธิ์ที่เป็นประโยชน์ไว้ครบถ้วน

  • หัวหอม – อุดมด้วยเควอซิติน ปกป้องหัวใจและหลอดเลือด

  • หัวหอมเป็นวัตถุดิบที่คุ้นเคยในหลายเมนู แต่มีหลายคนไม่รู้ว่าหัวหอมคือ “คลังยาต้านเชื้อแบคทีเรียธรรมชาติ” หัวหอมอุดมไปด้วยอัลลิซินและเควอซิติน 2 สารสำคัญที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย นอกจากเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแล้ว หัวหอมยังช่วยควบคุมระดับไขมันในเลือด ปรับปรุงการไหลเวียนเลือด และปกป้องระบบหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย

    การรับประทานหัวหอมเป็นประจำช่วยให้ร่างกายคงพลังงาน ลดความอ่อนเพลียได้ ผู้เชี่ยวชาญบางท่านแนะนำให้ทานหัวหอมดิบ (ในสลัด) เพื่อคงคุณค่าทางสารอาหารสูงสุด แต่สำหรับคนที่ทานดิบยาก สามารถผัดหรือนำไปอบแทนได้

    คำแนะนำในการใช้ปลอดภัย

    ผักทั้ง 3 ชนิดนี้มีราคาประหยัด หาง่าย และเหมาะกับมื้ออาหารในครอบครัว อย่างไรก็ตาม นักโภชนาการเตือนว่าไม่ควรบริโภคมากเกินไป เพราะอาจทำให้ย่อยยาก ท้องร้อน หรือมีผลกับผู้ที่มีปัญหากระเพาะอาหาร