เนื้อหาในหมวด ข่าว

พลิกแผ่นดินล่า \

พลิกแผ่นดินล่า "สมบัติฟาโรห์" อายุกว่า 3,000 ปี หายไปจากพิพิธภัณฑ์อียิปต์

มาตรการฉุกเฉิน พลิกแผ่นดินล่า "สมบัติฟาโรห์" อายุกว่า 3,000 ปี หายไปจากพิพิธภัณฑ์กลางเมืองอียิปต์

อียิปต์เกิดคดีลักลอบขโมยโบราณวัตถุ กำไลทองคำอายุกว่า 3,000 ปี ของฟาโรห์ในอียิปต์โบราณ หายไปอย่างลึกลับจากห้องปฏิบัติการบูรณะของพิพิธภัณฑ์อียิปต์ (Egyptian Museum) กรุงไคโร ทำให้ทางการเร่งเข้มมาตรการเฝ้าระวังทั่วประเทศ ทั้งสนามบิน ท่าเรือ และด่านชายแดนทางบก เพื่อสกัดกั้นไม่ให้โบราณวัตถุถูกลักลอบออกนอกประเทศ

กระทรวงการท่องเที่ยวและโบราณวัตถุอียิปต์แถลงว่า กำไลทองคำที่สูญหายมีการฝังลูกปัดลาพิสลาซูลี (Lapis Lazuli) อันล้ำค่า และถูกพบครั้งสุดท้ายในห้องบูรณะของพิพิธภัณฑ์บริเวณจัตุรัสทาห์ริร์ (Tahrir Square) คดีนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโดยตำรวจและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ขณะเดียวกัน ภาพถ่ายของกำไลดังกล่าวถูกแจกจ่ายไปยังทุกด่านตรวจทั่วประเทศเป็นมาตรการฉุกเฉิน

 

พิพิธภัณฑ์ยังชี้แจงเพิ่มเติมว่า ภาพที่แพร่ในโซเชียลไม่ใช่วัตถุที่ถูกขโมย แต่เป็นกำไลทองคำอีกชิ้นที่ยังจัดแสดงอยู่ตามปกติ เพื่อความมั่นใจว่าจะไม่มีโบราณวัตถุอื่นสูญหาย พิพิธภัณฑ์ได้ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นมาตรวจสอบและทำบัญชีทรัพย์สินโบราณวัตถุทั้งหมดภายในห้องบูรณะ

คดีลักลอบขโมยสมบัติระดับชาติครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสเตรียมเปิด “พิพิธภัณฑ์อียิปต์แห่งใหม่” (Grand Egyptian Museum) ในไม่ช้า ซึ่งจะนำสมบัติจากสุสานฟาโรห์ตุตันคามุนกว่า 5,000 ชิ้นมาจัดแสดงอย่างครบถ้วน

กำไลที่หายไปถือเป็น “ของล้ำค่าไร้ราคา” สืบย้อนไปถึงราชวงศ์ที่ 21 (ราว 1076–723 ปีก่อนคริสตกาล) และเป็นของฟาโรห์อาเมเนโมเพ (Amenemope) ผู้ปกครองที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงแต่มีคุณค่าทางวิชาการสูง เดิมถูกฝังในสุสาน NRT IV ที่เมืองตานิส ก่อนถูกเคลื่อนย้ายไปยังสุสานของฟาโรห์ผู้ทรงอำนาจ ซูเซนเนสที่ 1 (Psusennes I) และถูกค้นพบใหม่ในปี 1940

นักโบราณคดีนิติเวชจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ให้ความเห็นว่า การสูญหายของโบราณวัตถุล้ำค่าเช่นนี้ “ไม่น่าแปลกใจ” เพราะตลาดมืดของโบราณวัตถุทั่วโลกมีความต้องการสูง เขาชี้ว่าความเป็นไปได้รวมถึงถูกโจรกรรมและลักลอบออกนอกประเทศ ถูกหลอมเพื่อนำโลหะมีค่าออกมา หรือถูกนำไปซ่อนในตลาดสะสมของเอกชน

เหตุการณ์นี้สร้างแรงกดดันต่อระบบรักษาความปลอดภัยของพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ ที่กำลังเตรียมเปิดตัวในฐานะศูนย์รวมสมบัติอียิปต์โบราณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก