เนื้อหาในหมวด ข่าว

เศรษฐีนักรัก นอนกับผู้หญิง 4,000 คน พินัยกรรมอึ้งทั้งประเทศ สุดท้ายยกมรดกให้ใคร?

เศรษฐีนักรัก นอนกับผู้หญิง 4,000 คน พินัยกรรมอึ้งทั้งประเทศ สุดท้ายยกมรดกให้ใคร?

เศรษฐีชราผู้มีสัมพันธ์กับหญิง 4,000 คน เขียนพินัยกรรมอึ้งทั้งประเทศ ศาลตัดสินแล้วมรดก 280 ล้านเป็นของใคร?

เศรษฐีชาวญี่ปุ่นวัย 77 ปี  โคสุเกะ โนซากิ (Kosuke Nozaki) ผู้มีฉายา “มังกรแห่งคิชู” และถูกขนานนามว่า “ชายผู้มีสัมพันธ์กับหญิงกว่า 4,000 คน” เสียชีวิตกะทันหันในปี 2018 ทิ้งมรดกมหาศาลกว่า 1.3 พันล้านเยน (ราว 280 ล้านบาท) เขาได้เขียนพินัยกรรมด้วยปากกาหมึกแดง ระบุว่าจะ ยกทรัพย์สินทั้งหมดบริจาคให้กับเมืองทาเบะ ทำให้ญาติไม่พอใจและยื่นฟ้อง โดยอ้างว่าพินัยกรรมดังกล่าวถูกปลอมแปลง

ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2568 ศาลอุทธรณ์โอซากามีคำพิพากษา ยืนตามศาลชั้นต้นว่าพินัยกรรมมีผลบังคับตามกฎหมาย และตัดสินยกฟ้องญาติ

ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์โยมิอุริ ระบุว่า โนซากิเป็นนักธุรกิจผู้มั่งคั่งจากกิจการสุราและปล่อยเงินกู้ มีชื่อเสียงจากไลฟ์สไตล์ที่โลดโผน เขาเคยเผยในอัตชีวประวัติว่ามีสัมพันธ์กับผู้หญิงกว่า 4,000 คน จนได้รับฉายาดังกล่าว แม้อายุมากแล้วก็ยังอวดว่าเป็น “ชายที่ทำได้วันละสามครั้ง” ทั้งที่เคยป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง แต่ยังคงมีชีวิตทางเพศคึกคัก

เขาได้แต่งงานกับ ซากิ ซูโดะ ภรรยาที่ขณะนั้นอายุเพียง 22 ปี เคยถ่ายทำภาพยนตร์ผู้ใหญ่ในฐานะนักแสดงสมัครเล่น และรู้จักกับโนซากิผ่านคลับหาคู่หรูหรา โดยฝ่ายชายเสนอค่าใช้จ่ายรายเดือนถึง 1 ล้านเยน (ประมาณ 220,000 บาท) เพื่อขอแต่งงาน

 

อย่างไรก็ตาม สุขภาพของโนซากิ ทรุดลงอย่างรวดเร็ว และเสียชีวิตหลังแต่งงานกับซูโดะไม่กี่เดือน ภายหลังการเสียชีวิตเจ้าหน้าที่ตรวจพบสารกระตุ้นหลายกรัมในร่างกาย แต่ไม่พบร่องรอยการฉีดยา สันนิษฐานว่าน่าจะถูกผสมมาในอาหารหรือเครื่องดื่ม 

ซูโดะปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่า “ฉันได้เงินใช้ทุกเดือนอยู่แล้ว จะไปทำร้ายเขาทำไม” ศาลชั้นต้นจึงพิพากษาว่า ไม่มีหลักฐานเพียงพอ และตัดสินให้เธอพ้นผิดเมื่อเดือนธันวาคม 2024 ซึ่งอัยการได้ยื่นอุทธรณ์ต่อ

ซูโดะได้เปิดเผยพฤติกรรมทางเพศของโนซากิต่อศาล โดยเธอกล่าวว่า การแต่งงานของทั้งคู่เป็นการแต่งงานเพื่อเงิน ซูโดะอธิบายว่า ความสัมพันธ์ครั้งนี้เป็นชีวิตคู่ที่ "ไร้ความรัก" ในคืนแต่งงาน โนซากิขอมีเซ็กส์กับเธอ แต่เธอปฏิเสธ สุดท้ายเธอจึงสวมถุงมือยางและสำเร็จความใคร่ให้เขา และทุกครั้งที่โนซากิมีความต้องการทางเพศ เธอจะใช้วิธีนี้

ส่วนกรณีข้อพิพาทพินัยกรรม ญาติของโนซากิอ้างว่าลายมือในพินัยกรรมดูหวัดและคล้ายถูกปลอม พร้อมยื่นผลตรวจพิสูจน์ลายมือ 3 ฉบับ แต่ศาลพิจารณาจากลักษณะการเขียนของโนซากิในช่วงชีวิตจริง สถานที่เก็บพินัยกรรม และคำให้การของพนักงานบริษัท จึงเชื่อว่าเป็นลายมือที่แท้จริงของเจ้าตัว

นอกจากนี้ พยานซึ่งเป็นนักบัญชียังยืนยันว่า โนซากิเคยบอกไว้ว่า “ไม่อยากให้พี่น้องที่โลภได้มรดก อยากมอบให้ผู้ด้อยโอกาสในสังคมมากกว่า” ศาลจึงมีคำวินิจฉัยว่าพินัยกรรมมีผลทางกฎหมายอย่างสมบูรณ์ ทำให้เมืองทาเบะจะได้รับมรดกก้อนใหญ่ และจะนำไปใช้เพื่อสาธารณูปโภคและสวัสดิการสังคมในอนาคต