
ลูกชาย 1 ขวบ เกาหัวบ่อยๆ พ่อแม่คิดว่าแค่เล่น สุดท้ายรู้ความจริงสยอง เกือบเสียการได้ยิน!
ลูกชายวัย 1 ขวบ เกาหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า พ่อแม่คิดว่าเป็นแค่พฤติกรรมธรรมดา จนกว่าจะรู้ความจริงชวนสยอง
สำหรับพ่อแม่หลายคน พฤติกรรมของลูกเล็กที่ดูเหมือนไม่มีอะไร เช่น เกาหัว เบา ๆ อาจถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติ แต่กรณีของเด็กชายวัย 1 ขวบคนหนึ่งที่ประเทศจีน ทำให้หลายคนต้องตระหนักว่า บางครั้งสิ่งที่ดูธรรมดาอาจแฝงอันตรายอยู่เบื้องหลัง
เด็กชายชื่อ “อันอัน” (An An) เมื่ออายุได้ 1 ปี มักจะเอามือเกาหัวใกล้ ๆ บริเวณหูเป็นประจำ พ่อแม่แรก ๆ ไม่ได้ให้ความสนใจมาก เพราะคิดว่าเป็นเพียงการสำรวจตัวเอง หรือเป็นนิสัยเด็กปกติที่เด็กหลายคนมี
สัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม และผลวินิจฉัยที่ทำให้ตกใจ
หลังผ่านไประยะหนึ่ง พ่อแม่เริ่มสังเกตเห็นอาการเพิ่มเติม เช่น อันอันดูหงุดหงิด แสดงสีหน้าคับข้องใจขณะเกาหัว ความรู้สึกไม่สบายตัว และเริ่มร้องไห้บ่อยขึ้น ทำให้พ่อแม่ตัดสินใจพาไปหาหมอ
แพทย์ระบุว่า เด็กมี โรคติดเชื้อในหูชั้นกลาง รุนแรง และมีสัญญาณของการอักเสบ ซึ่งหากปล่อยไว้นานอาจส่งผลเสียต่อการได้ยินและพัฒนาการทางภาษาได้ พ่อแม่จึงรู้สึกเสียใจ ที่ไม่ทันสังเกตอาการเหล่านี้ให้เร็วกว่านี้
- แม่ทรุด ลูกชาย 8 ขวบ ทรมานโรคเกาต์ เพราะ "เมนูโปรด" ที่กิน 3 มื้อต่อวัน ไม่มีส่วนผสมไก่!
- ช็อกทั้งบ้าน! ลูกสาว 1 ขวบ ตัวเขียว-เลือดดำ หลังกิน "ซุป" รู้วิธีปรุงหมอส่ายหัว
อะไรบ้างที่เป็นสาเหตุของโรคนี้
โรคหูชั้นกลางอักเสบ (Otitis Media) เกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้
- การติดเชื้อจากไวรัสหรือแบคทีเรีย โดยเฉพาะหลังจากที่เด็กมีอาการหวัดหรือติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
- น้ำเข้าหู หรือความชื้นในหูที่สะสม
- ระบบภูมิคุ้มกันที่ยังไม่ได้พัฒนาเต็มที่ในเด็กเล็ก
- สิ่งเร้าจากสิ่งแวดล้อม เช่น ควันบุหรี่ หรืออากาศที่มีฝุ่นมาก
สัญญาณที่ผู้ปกครองควรเฝ้าสังเกต
ถ้าลูกมีพฤติกรรมหรืออาการต่อไปนี้ ควรหาคำปรึกษาแพทย์โดยเร็ว
- เกาหรือดึงหูบ่อย ดูเหมือนมีอาการเจ็บ
- ร้องไห้หรือโวยวายเฉพาะเวลากลางคืน
- มีไข้สูงอย่างต่อเนื่อง
- น้ำไหลจากหู
- การนอนหลับถูกรบกวนหรือนอนหลับยาก
- เบื่ออาหาร กินอาหารน้อยลง
ผลกระทบหากไม่ได้รับการรักษา
หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา โรคหูชั้นกลางอักเสบอาจนำไปสู่
- การสูญเสียการได้ยิน ชั่วคราว หรือถ้ารุนแรงอาจพัฒนาถึงระดับถาวร
- อาการอักเสบเรื้อรังที่รักษาให้หายยาก
- ส่งผลต่อการพัฒนาภาษาและการสื่อสาร เนื่องจากได้ยินเสียงได้ไม่ชัดเจน
- อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อแพร่กระจาย เป็นต้น
วิธีป้องกันที่ผู้ปกครองควรรู้
เพื่อช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันไม่ให้อาการลุกลาม ต่อไปนี้คือแนวทางที่พ่อแม่สามารถทำได้
- รักษาความสะอาดและความแห้งของหู ให้หูเด็กไม่เปียกชื้น
- ให้เด็กได้รับวัคซีนที่เกี่ยวข้อง เช่น วัคซีนไข้หวัด วัคซีนปอดบวม ฯลฯ
- หลีกเลี่ยงการสูดควันบุหรี่หรืออยู่ในพื้นที่อากาศสกปรก
- เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะนมแม่มีสารภูมิต้านทาน
- พาเด็กไปตรวจสุขภาพตามนัดหมาย และติดต่อแพทย์ทันทีเมื่อเห็นสัญญาณผิดปกติ
พฤติกรรมที่ดูเหมือนไม่มีอะไรอย่างการเกาหัวซ้ำ ๆ อาจเป็นสัญญาณเตือนของอาการป่วยในเด็ก โดยเฉพาะ โรคหูชั้นกลางอักเสบ ที่ถ้าปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจมีผลกระทบรุนแรง ผู้ปกครองควรสังเกตอาการเล็กๆ ให้ดี ตั้งใจฟัง เข้าใจลูก และไม่รีรอหากมีความสงสัย เพื่อให้เด็กได้รับการดูแลทันเวลา