เนื้อหาในหมวด ข่าว

ลูกชาย 1 ขวบ เกาหัวบ่อยๆ พ่อแม่คิดว่าแค่เล่น สุดท้ายรู้ความจริงสยอง เกือบเสียการได้ยิน!

ลูกชาย 1 ขวบ เกาหัวบ่อยๆ พ่อแม่คิดว่าแค่เล่น สุดท้ายรู้ความจริงสยอง เกือบเสียการได้ยิน!

ลูกชายวัย 1 ขวบ เกาหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า พ่อแม่คิดว่าเป็นแค่พฤติกรรมธรรมดา จนกว่าจะรู้ความจริงชวนสยอง

สำหรับพ่อแม่หลายคน พฤติกรรมของลูกเล็กที่ดูเหมือนไม่มีอะไร เช่น เกาหัว เบา ๆ อาจถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติ แต่กรณีของเด็กชายวัย 1 ขวบคนหนึ่งที่ประเทศจีน ทำให้หลายคนต้องตระหนักว่า บางครั้งสิ่งที่ดูธรรมดาอาจแฝงอันตรายอยู่เบื้องหลัง

เด็กชายชื่อ “อันอัน” (An An) เมื่ออายุได้ 1 ปี มักจะเอามือเกาหัวใกล้ ๆ บริเวณหูเป็นประจำ พ่อแม่แรก ๆ ไม่ได้ให้ความสนใจมาก เพราะคิดว่าเป็นเพียงการสำรวจตัวเอง หรือเป็นนิสัยเด็กปกติที่เด็กหลายคนมี

สัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม และผลวินิจฉัยที่ทำให้ตกใจ

หลังผ่านไประยะหนึ่ง พ่อแม่เริ่มสังเกตเห็นอาการเพิ่มเติม เช่น อันอันดูหงุดหงิด แสดงสีหน้าคับข้องใจขณะเกาหัว ความรู้สึกไม่สบายตัว และเริ่มร้องไห้บ่อยขึ้น ทำให้พ่อแม่ตัดสินใจพาไปหาหมอ

แพทย์ระบุว่า เด็กมี โรคติดเชื้อในหูชั้นกลาง รุนแรง และมีสัญญาณของการอักเสบ ซึ่งหากปล่อยไว้นานอาจส่งผลเสียต่อการได้ยินและพัฒนาการทางภาษาได้ พ่อแม่จึงรู้สึกเสียใจ ที่ไม่ทันสังเกตอาการเหล่านี้ให้เร็วกว่านี้

อะไรบ้างที่เป็นสาเหตุของโรคนี้

โรคหูชั้นกลางอักเสบ (Otitis Media) เกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้

  • การติดเชื้อจากไวรัสหรือแบคทีเรีย โดยเฉพาะหลังจากที่เด็กมีอาการหวัดหรือติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
  • น้ำเข้าหู หรือความชื้นในหูที่สะสม
  • ระบบภูมิคุ้มกันที่ยังไม่ได้พัฒนาเต็มที่ในเด็กเล็ก
  • สิ่งเร้าจากสิ่งแวดล้อม เช่น ควันบุหรี่ หรืออากาศที่มีฝุ่นมาก

สัญญาณที่ผู้ปกครองควรเฝ้าสังเกต

ถ้าลูกมีพฤติกรรมหรืออาการต่อไปนี้ ควรหาคำปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

  • เกาหรือดึงหูบ่อย ดูเหมือนมีอาการเจ็บ
  • ร้องไห้หรือโวยวายเฉพาะเวลากลางคืน
  • มีไข้สูงอย่างต่อเนื่อง
  • น้ำไหลจากหู
  • การนอนหลับถูกรบกวนหรือนอนหลับยาก
  • เบื่ออาหาร กินอาหารน้อยลง

ผลกระทบหากไม่ได้รับการรักษา

หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา โรคหูชั้นกลางอักเสบอาจนำไปสู่

  • การสูญเสียการได้ยิน ชั่วคราว หรือถ้ารุนแรงอาจพัฒนาถึงระดับถาวร
  • อาการอักเสบเรื้อรังที่รักษาให้หายยาก
  • ส่งผลต่อการพัฒนาภาษาและการสื่อสาร เนื่องจากได้ยินเสียงได้ไม่ชัดเจน
  • อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อแพร่กระจาย เป็นต้น

วิธีป้องกันที่ผู้ปกครองควรรู้

เพื่อช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันไม่ให้อาการลุกลาม ต่อไปนี้คือแนวทางที่พ่อแม่สามารถทำได้

  • รักษาความสะอาดและความแห้งของหู ให้หูเด็กไม่เปียกชื้น
  • ให้เด็กได้รับวัคซีนที่เกี่ยวข้อง เช่น วัคซีนไข้หวัด วัคซีนปอดบวม ฯลฯ
  • หลีกเลี่ยงการสูดควันบุหรี่หรืออยู่ในพื้นที่อากาศสกปรก
  • เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะนมแม่มีสารภูมิต้านทาน
  • พาเด็กไปตรวจสุขภาพตามนัดหมาย และติดต่อแพทย์ทันทีเมื่อเห็นสัญญาณผิดปกติ

พฤติกรรมที่ดูเหมือนไม่มีอะไรอย่างการเกาหัวซ้ำ ๆ อาจเป็นสัญญาณเตือนของอาการป่วยในเด็ก โดยเฉพาะ โรคหูชั้นกลางอักเสบ ที่ถ้าปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจมีผลกระทบรุนแรง ผู้ปกครองควรสังเกตอาการเล็กๆ ให้ดี ตั้งใจฟัง เข้าใจลูก และไม่รีรอหากมีความสงสัย เพื่อให้เด็กได้รับการดูแลทันเวลา