รู้จักอาชีพ "ช่างเชื่อมใต้น้ำ" เปิดรายได้ต่อเดือน กับทักษะเฉพาะตัวและความเสี่ยง
ช่างเชื่อมใต้น้ำ (Underwater Welder) เป็นอาชีพเฉพาะทาง ซึ่งรวมทั้งทักษะเชื่อมโลหะและทักษะการดำน้ำเข้าด้วยกัน โดยมักทำงานในสิ่งแวดล้อมที่มีน้ำล้อมรอบ เช่น
-
ในน้ำทะเลในโซนอู่ต่อเรือ
-
บริเวณแท่นขุดเจาะน้ำมันหรือก๊าซ
-
โครงสร้างใต้ท้องเรือ
-
ท่อส่งใต้ทะเล
-
งานซ่อมบำรุงอุปกรณ์ใต้น้ำ เช่น ถัง วาล์ว โครงสร้างเหล็กที่ถูกกัดกร่อน
หน้าที่หลัก ช่างเชื่อมใต้น้ำมีหน้าที่หลายอย่าง ได้แก่:
เตรียมอุปกรณ์และสถานที่
ตรวจสอบเครื่องมือเชื่อม ใบมีด เชือก ดำน้ำ อุปกรณ์ความปลอดภัย
ตรวจวัดความลึก แรงดันน้ำ สภาพน้ำ (กระแส น้ำเค็ม น้ำจืด)
เตรียมวัสดุโลหะที่ต้องเชื่อมหรือซ่อม
ดำใต้น้ำและดำเนินการเชื่อมหรือซ่อม
ดำลงไปยังตำแหน่งที่ต้องทำงาน
ใช้เทคนิคเชื่อมโลหะใต้น้ำ (เช่น เชื่อมแบบไฟฟ้าใต้น้ำ, เชื่อมที่แยกน้ำออกจากจุดเชื่อม ฯลฯ)
ถ้าต้องตัดโลหะใต้น้ำ (cutting) ก็ทำงานตัดโครงสร้างที่เสียหาย
ตรวจสอบคุณภาพหลังเชื่อมหรือซ่อม
ตรวจสอบรอยเชื่อมว่ามีรอยรั่ว รอยแตก หรือการยึดเกาะที่ไม่ดีหรือไม่
ให้แน่ใจว่าส่วนที่เชื่อมหรือซ่อมนั้นทนทานต่อแรงดันน้ำและการกัดกร่อน
ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยสูง
ใช้อุปกรณ์ดำน้ำอย่างปลอดภัย (scuba, surface-supplied, or mixed gas depending)
ใส่ชุดดำน้ำ-Full diving suit, helmet, harness, safety lines
มีทีมสนับสนุน ช่วยเฝ้าระวัง (dive supervisor, safety diver)
ตรวจสอบสภาพร่างกายก่อน-หลังดำน้ำ (เช่น ความดันเลือด, การหายใจ)
การบำรุงรักษาและทำความสะอาด
หลังงานเชื่อม อาจต้องทำความสะอาดรอยเชื่อมหรือพื้นผิวโลหะ
ป้องกันการกัดกร่อน (coating, anti-corrosion) หรือเคลือบสารป้องกัน
คุณสมบัติ และวิธีฝึก เพื่อจะเป็นช่างเชื่อมใต้น้ำได้ ต้องมี :
1. ใบรับรองการดำน้ำเชิงพาณิชย์ จำเป็นต้องมีใบรับรองจากองค์กรที่เชื่อถือได้ เช่น ADCI (Association of Diving Contractors International) เพื่อยืนยันว่า สามารถทำงานดำน้ำเชิงวิชาชีพได้อย่างปลอดภัยในทุกสภาพแวดล้อม
2. ทักษะการเชื่อมขั้นสูง ต้องเชี่ยวชาญเทคนิคเชื่อม เช่น SMAW (Shielded Metal Arc Welding) FCAW (Flux-Cored Arc Welding) เพื่อให้สามารถเชื่อมโลหะใต้น้ำได้อย่างแข็งแรงและแม่นยำ
3. สมรรถภาพทางร่างกาย ร่างกายต้องแข็งแรง ทนทาน สามารถรับแรงดันน้ำ จัดการอุปกรณ์หนัก และทำงานในสภาพแวดล้อมที่จำกัดได้
4. ทักษะทางเทคนิค ต้องรู้จักการใช้อุปกรณ์ดำน้ำ เข้าใจวิธีจัดการเครื่องมือเฉพาะทางในสภาพแวดล้อมที่ทัศนวิสัยต่ำหรือมีความเสี่ยงสูง
5. การรับรองการเชื่อมใต้น้ำ เช่น AWS D3.6 จาก American Welding Society รับรองว่าเชี่ยวชาญการเชื่อมในสภาพใต้น้ำจริง
6. การรับรองเฉพาะทาง งานบางประเภทอาจต้องมีการฝึกอบรมพิเศษ เช่น การทดสอบแบบไม่ทำลาย (NDT) การตรวจสอบความสมบูรณ์ของรอยเชื่อมในใต้น้ำ
7. การฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง อุตสาหกรรมนี้มีการพัฒนาเทคโนโลยีและมาตรฐานความปลอดภัยอยู่เสมอ จึงต้องมีการฝึกอบรมซ้ำหรืออัปเดตใบรับรองตามรอบเวลา
รายได้ประมาณเท่าไหร่ อาชีพนี้ถือว่า รายได้สูง เมื่อเทียบกับงานทั่วไป เพราะเป็นงานที่เสี่ยง และต้องใช้ทักษะเฉพาะทางสูง
รูปแบบการจ้าง/งาน รายได้โดยประมาณ แบบรายชั่วโมง บางบริษัทจ่ายถึง ชั่วโมงละ 4,500 บาท
รายวัน อยู่ในช่วง 3,200–10,000 บาท/วัน ขึ้นกับลักษณะงานและความยากง่าย
รายเดือน ถ้างานเต็มเวลาและมีชั่วโมงทำงานต่อเดือนมาก อาจได้รับรายได้ นับแสนบาทต่อเดือน
-
กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่าหลักสูตรเชื่อมใต้น้ำ สามารถรับเงิน 4,500 บาท/ชั่วโมง ถ้าทักษะพร้อมและงานมีความซับซ้อนสูง
-
งานบางแห่งเสนอรายวันที่สูง (ขึ้นกับสภาพงาน) เช่น งานในอุตสาหกรรมนอกชายฝั่ง งานแท่นขุดเจาะ ฯลฯ
(ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานปี 2567)
ความท้าทายและข้อควรระวัง อาชีพนี้มีข้อดีหลายอย่าง แต่ก็มีข้อจำกัดและความเสี่ยงที่ควรรู้:
-
สภาพแวดล้อมอันตราย: ดำน้ำแล้ว ต้องรับแรงดัน น้ำเค็ม อากาศต่ำ อาจเกิดอุบัติเหตุ
-
ความเปราะบางทางกาย: เสี่ยงบาดเจ็บเมื่อทำงานกับโลหะหนัก ไฟฟ้า ความร้อน การระเบิด
-
ฝึกและลงทุนสูง: ต้องมีใบรับรองดำน้ำ วิชาชีพเชื่อมเฉพาะทาง อุปกรณ์พิเศษ
โอกาสในอนาคต
-
ความต้องการสูงในอุตสาหกรรมน้ำมัน & ก๊าซ แท่นขุดเจาะ ฯลฯ ทั้งในไทยและต่างประเทศ
-
รัฐบาลสนับสนุนการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะเพื่อป้อนอุตสาหกรรมที่ขาดแคลนแรงงานเฉพาะทาง
-
ถ้าชำนาญ อาจได้รับงานต่างประเทศ ค่าตอบแทนสูง
สรุป
ช่างเชื่อมใต้น้ำเป็นอาชีพที่มีความเฉพาะทางสูง ต้องใช้ทักษะหลายด้าน ทั้งการเชื่อมโลหะและดำน้ำ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงและความท้าทายมากพอสมควร แต่เมื่อทำได้ดี มีใบรับรอง มีประสบการณ์ รายได้สูงมาก โดยเฉพาะในงานที่ซับซ้อน เช่น งานแท่นขุดเจาะหรืองานซ่อมบำรุงใต้น้ำ งานในอู่ต่อเรือ เป็นต้น