ประวัติอันมืดมนของ "การอาบน้ำ" ใช้เป็นวิธีทรมาน ในชื่อการรักษาโรคทางจิต
ประวัติอันมืดมนของ “การอาบน้ำเพื่อรักษาโรคจิตใจ” ที่เคยถูกใช้เป็นเครื่องมือทรมาน
หลายคนอาจไม่เคยนึกว่าแนวคิดของ hydrotherapy หรือ “การบำบัดด้วยน้ำ” เคยถูกนำมาใช้ในทางที่ทารุณในยุโรป ระหว่างศตวรรษที่ 17–19 เพื่อรักษาหรือควบคุมผู้มีอาการทางจิตใจ วิธีเหล่านี้ในหลายกรณีขาดมนุษยธรรมและมีความเสี่ยงสูง
ต้นกำเนิดและวิธีดั้งเดิมในยุคแรก
การทดลองของ Jan Baptist van Helmont
ในช่วงศตวรรษที่ 17 แพทย์ชาวฟลามดิช “Jan Baptist van Helmont” เคยทดลองจุ่มผู้ป่วยเปลือยกาย ลงในบ่อน้ำหรือแม่น้ำ (ทั้งตัวหรือเฉพาะศีรษะ) โดยมัดมือผู้ป่วยไว้ ด้วยความเชื่อว่าสามารถลดความร้อนในร่างกายและการทำงานที่เกินควรของ “ชีวิตที่ร้อนแรง (fiery life)” ได้
วิธีการเย็นช็อก (cold water dousing) และฝักบัวราด
ในศตวรรษที่ 19 เริ่มมีการใช้ “ฝักบัว” ราดน้ำเย็นลงมาที่ศีรษะ หรือวิธีราดน้ำ (douche) ที่มุ่งหวังให้เกิดการช็อกทางร่างกายและจิตใจ เพื่อ “เย็นสมองที่ร้อน” โดยแพทย์หลายรายถือว่าเป็นวิธีที่ควบคุมอารมณ์ของผู้ป่วยได้ แม้มีความเจ็บปวดหรือความกลัวเข้ามาร่วมด้วย
มีเอกสารระบุว่า Alexander Morison เคยออกแบบอุปกรณ์ฝักบัว (douche) ที่ผู้ป่วยนั่งอยู่ในกล่อง/โครงที่มีศีรษะยื่นออกมา จากด้านบนจะมีน้ำไหลลงมารดศีรษะผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง ส่วน Joseph Guislain ก็ออกแบบฝักบัวลักษณะที่คล้ายกัน โดยมีถังน้ำอยู่บนหลังคาของโรงผู้ป่วย และผู้ปล่อยน้ำอาจอยู่ในที่ซึ่งผู้ป่วยมองไม่เห็น “ความกลัวและไม่แน่นอน” ถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของผลทางจิตใจ
วิธี Wet Sheet Pack และการอบร้อน/ห่อตัว
วิธีนี้ผู้ป่วยจะถูกห่อด้วยผ้าชุบน้ำ (wet sheet) แล้วคลุมด้วยผ้าหรือผ้าห่มหนา บางครั้งใช้วัสดุกันน้ำหรือยางเพื่อป้องกันการระเหย ผู้ใช้วิธีนี้เชื่อว่าจะช่วยให้เกิดการระบายความร้อน อาการระคายเคือง หรือ “ขับสารพิษ” จากร่างกาย บางกรณีถูกใช้กับผู้ป่วยที่มีอาการตื่นตระหนกหรือไม่สงบ
ในบางโรงพยาบาลทางจิตวิทยายุคต้นของศตวรรษที่ 20 มีการใช้วิธีให้แช่อ่างน้ำอุ่นหรือน้ำที่อุณหภูมิปานกลางเป็นเวลาหลายชั่วโมงหรือหลายวัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อสงบอาการผู้ป่วยหรือควบคุมพฤติกรรม
ผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ
การใช้วิธีเหล่านี้มีความเสี่ยงและผลเสียหลายประการ เช่น
- ความเครียดจากการถูกบังคับหรือถูกมัด
- อันตรายจากการสำลักน้ำ หรือสูดน้ำลงปอด
- ภาวะขาดน้ำหรือช็อกจากการถูกห่อ หรืออบร้อนเกินไป
- ในบางกรณีผู้ป่วยโดนฝักบัวเย็นจัด ร่างกายรับไม่ไหว และอาจเสียชีวิตได้
การเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคใหม่และวิธีที่ปลอดภัยขึ้น
เมื่อเข้าสู่ศตวรรษที่ 20 แนวคิดการบำบัดด้วยน้ำ (hydrotherapy) ถูกนำมาใช้ในฐานะวิธีเสริม (adjunct) ในโรงพยาบาลจิตเวช โดยเฉพาะก่อนการมียาต้านจิตเวช (neuroleptics)
วันนี้ hydrotherapy มีหลายรูปแบบที่เน้นความปลอดภัยและยินยอม เช่น การแช่น้ำร้อนหรือน้ำอุ่น, อุณหภูมิน้ำควบคุม, แพ็กเปียก (wet packs) แบบชั่วคราวเพื่อผ่อนคลาย หรือการใช้น้ำสมุนไพร ฯลฯ ไม่มีการทรมานหรือบังคับผู้ป่วยอีกต่อไปในระบบรักษาที่ได้รับการควบคุม
ในอดีต “การอาบน้ำเพื่อรักษาโรคจิตใจ” เคยถูกนำมาใช้ในทางที่ผิด เพื่อตอบสนองแนวคิดที่ผสมระหว่างวิทยาศาสตร์ไม่สมบูรณ์และการควบคุมทางสังคม แม้จะมีวิธีที่โหดร้ายและขาดความเอาใจใส่ผู้ป่วย ความรู้และจริยธรรมทางการแพทย์ในปัจจุบันได้เรียนรู้จากอดีต และพัฒนาแนวทางที่เคารพสิทธิมนุษยชน มุ่งเน้นความปลอดภัยและความยินยอมของผู้ป่วย
- หมอย้ำเตือน "อาบน้ำ-ล้างหน้า-สระผม" ต้องเรียงลำดับยังไง รู้ไว้ไม่เสี่ยงโรคทางสมอง!
- โศกนาฏกรรม นักจิตวิทยาทดลอง "เลี้ยงลูกคู่กับลิง" เผยบั้นปลายชีวิต จบไม่สวยทั้งคน-สัตว์