เขาคือใคร? ชายคนแรกของโลก ที่แช่แข็งรอ "ฟื้นคืนชีพ" แล้วปัจจุบันเป็นอย่างไร
ชายคนแรกในโลกที่ตั้งใจ “แช่แข็ง” รอวันถูกฟื้นคืนชีพ 24 ปีต่อมานักวิทยาศาสตร์ตกตะลึงเมื่อเปิดถังไนโตรเจน
มีการทดลองชนิดหนึ่งที่หลายคนมองว่า “สุดโต่ง” นั่นคือการนำร่างผู้เสียชีวิตไปเก็บรักษาในอุณหภูมิต่ำสุด เพื่อหวังว่าวันหนึ่งวิทยาศาสตร์จะสามารถฟื้นชีวิตกลับมาได้ เรื่องนี้เริ่มขึ้นเมื่อปี 1967 โดยมีชายผู้กล้าชื่อ เจมส์ ฮีเรียม แบ็ดฟอร์ด เป็นคนริเริ่มทดลอง Cryogenic แรกของโลก
Cryogenic (ไครโอเจนิกส์) คือ ศาสตร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับอุณหภูมิต่ำมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอุณหภูมิที่ต่ำกว่า -150°C ลงไป ซึ่งมักใช้ในด้านการเก็บรักษาสิ่งมีชีวิต หรือวัสดุทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องการการคงสภาพเป็นเวลานาน
ใครคือ เจมส์ ฮีเรียม แบ็ดฟอร์ด?
"เจมส์ ฮีเรียม แบ็ดฟอร์ด" (James Hiram Bedford) เป็นศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เขาเสียชีวิตในวันที่ 12 มกราคม 1967 จากโรคมะเร็งไต แต่ก่อนจาก เขาได้วางแผนล่วงหน้าว่าหากตายแล้ว ไม่ต้องการให้ร่างฝังแบบธรรมดา อยากให้มีการ “แช่เย็น” ร่างไว้ เพื่อรอวันที่เทคโนโลยีจะก้าวหน้าเพียงพอในการฟื้นชีวิตกลับมา
ทันทีหลังจากเสียชีวิต ร่างของเขาถูกฉีดสารกันการแข็งตัวของเลือดและให้ระบบหมุนเวียนเลือดรับออกซิเจนเพื่อช่วยลดความเสียหายของสมอง จากนั้นถูกวางไว้ในภาชนะที่มีน้ำแข็งแห้ง (ประมาณ −79°C) ก่อนจะถูกย้ายเข้าไปในไนโตรเจนเหลวที่มีอุณหภูมิราว −196°C เพื่อจุดประสงค์ในการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน
24 ปีต่อมา เมื่อตรวจสอบในปี 1991
หลังจากผ่านไป 24 ปี ร่างของแบ็ดฟอร์ดที่ถูกเก็บไว้ในถังไนโตรเจนเหลว ได้ถูกเปิดขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อตรวจสอบสภาพภายใน โดยผู้เชี่ยวชาญจากองค์กร Alcor (Alcor Life Extension Foundation) เป็นองค์กรที่มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องของ การแช่แข็งร่างมนุษย์เพื่อรอการฟื้นคืนชีพในอนาคต
ผู้เชี่ยวชาญพบว่า ร่างของเขายังคงอยู่ในสภาพที่ “ถูกปิดผนึก” ค่อนข้างดี แต่ก็ยังมีความเสียหายบางส่วน เช่น ผิวหนังที่เปลี่ยนสี, บริเวณคอและแขนมีลักษณะบวม เหมือนติดเชื้อ และบางจุดมีรอยแตกร้าว เนื่องจากแรงกดของชิ้นส่วนแข็งในขั้นตอนแรกของการแช่เย็น
ห้าสิบห้าปีหลังจากร่างของเขาถูก “ปิดผนึก” ชายคนแรกที่เข้ารับการทดลองคืนชีพยังคงถูกเก็บรักษาไว้ในถังไนโตรเจนเหลว รอคอยปาฏิหาริย์ ญาติพี่น้องของเขาทุกคนเสียชีวิตไปนานแล้ว และเลือกที่จะฝังศพแบบปกติ หากเบดฟอร์ดตื่นขึ้นมาในสักวันหนึ่ง เขาจะถูกรายล้อมไปด้วยคนแปลกหน้า และจะตื่นขึ้นมาในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปมาก
- ย้อนคำสอน “ราชาน้ำมัน” บอกลูกๆ แค่ 5 เรื่อง แต่รวยมหาศาล เพราะไม่ใช่ทุกคนจะรู้เรื่องนี้!
- ชายโดดเดี่ยวที่สุดในโลก อาศัยอยู่คนเดียวใน "เมืองผี" ที่เคยจมบาดาล เผยแต่ละวันทำอะไร
สถานะปัจจุบันและสิ่งที่ยังไม่เป็นจริงตามฝัน
แม้แบ็ดฟอร์ดจะตั้งใจให้มีการฟื้นคืนชีพในปี 2017 (หลังจากเสียชีวิต 50 ปี) แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีเทคโนโลยีใดที่สามารถคืนชีวิตมนุษย์ที่ถูกแช่แข็งกลับมาได้จริง ภายในศูนย์ของ Alcor ปัจจุบันมีผู้ที่เลือกใช้วิธี Cryogenic รอคอย “การตื่น” อยู่เป็นจำนวนมากทั่วโลก
การทดลอง Cryogenic ยกประเด็นหลายอย่าง ทั้งทางด้าน จริยธรรม ว่าเป็นสิ่งที่มนุษย์ควรทำหรือไม่, ทางด้านวิทยาศาสตร์ว่าเป็นไปได้จริงหรือไม่, และทางด้านค่าใช้จ่ายที่สูงมาก นอกจากนี้ยังมีคำถามว่า ถ้าหากฟื้นคืนชีพได้จริง ผู้ที่ถูกฟื้นอาจต้องเจอโลกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง
เรื่อง Cryogenic ของแบ็ดฟอร์ดเป็นหนึ่งในกรณีที่ชวนให้ตั้งคำถาม ว่าฝันของ “การเอาชนะความตาย” นั้นอาจอยู่ใกล้หรือไกลแค่ไหน ถึงแม้เทคโนโลยียังไม่สามารถทำให้ฝันนี้เป็นจริงในตอนนี้ แต่ความตั้งใจและการทดลองดังกล่าว เปิดโอกาสให้เราได้คิดว่า มนุษย์อาจมีทางเลือกมากกว่าแค่ “อยู่หรือจบ” เมื่อพูดถึงชีวิตและความตาย
