งานวิจัยชิ้นใหม่เตือน แค่ดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้เพียง 1 แก้ว ก็เสมือน "ระเบิดสมอง"
งานวิจัยชิ้นใหม่เผยคำเตือนชวนตะลึง แค่ดื่มเครื่องดื่มนี้เพียง 1 แก้ว ก็ทำร้ายสุขภาพได้ เสมือน "ระเบิดสมอง"
งานวิจัยล่าสุดชี้ว่า การตามใจปากด้วยอาหารไขมันสูงอาจต้องแลกมาด้วยราคาที่แพงกว่าที่คิด แม้เพียง "มิลค์เชก" 1 แก้ว ก็สามารถทำให้การไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมองลดลง เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองและภาวะสมองเสื่อม
“จากสิ่งที่เรากำลังค้นพบ ทุกมื้ออาหารล้วนมีความหมายต่อการปกป้องสุขภาพสมอง” นักวิจัย Chris Marley และ Damian Bailey จากมหาวิทยาลัย South Wales เขียนไว้ในบทความ The Conversation
เราทุกคนจำเป็นต้องมีไขมันเพื่อให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกติ ไขมันทำหน้าที่ให้พลังงาน รักษาความอบอุ่น และคอยปกป้องอวัยวะต่าง ๆ ของเรา
ไขมันอิ่มตัวและไขมันไม่อิ่มตัวมีโครงสร้างทางเคมีที่แตกต่างกัน และส่งผลต่อร่างกายต่างกันอย่างมาก
มื้ออาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูงทำให้ระดับไขมันในเลือดเพิ่มขึ้น และทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งตัว ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดลดลง และทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น ซึ่งผลกระทบเหล่านี้จะสูงสุดประมาณ 4 ชั่วโมงหลังรับประทาน

นักวิจัยสนใจค้นคว้าว่าการรวมกันของปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อสมองอย่างไร
โดยได้คัดเลือกผู้ชาย 20 คน อายุระหว่าง 18–35 ปี และผู้ชาย 21 คน อายุระหว่าง 60–80 ปี มาวัดประสิทธิภาพของหลอดเลือดที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพหัวใจและสมอง ก่อนและหลังรับประทานมิลค์เชกที่ถูกขนานนามว่า “ระเบิดสมอง”
มิลค์เชกมีพลังงานถึง 1,362 แคลอรี และมีไขมัน 130 กรัม ส่วนผสมหลักคือครีมวิปหนัก
“ผลการศึกษาของเรา ยืนยันงานวิจัยก่อนหน้านี้ ที่ชี้ว่ามื้ออาหารไขมันสูงลดความสามารถของหลอดเลือด ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพหัวใจในการขยายตัว ทั้งในผู้เข้าร่วมอายุน้อยและอายุมาก” Marley และ Bailey เขียนไว้
“ความบกพร่องเหล่านี้ทำให้สมองลดความสามารถในการปรับตัวต่อความดันเลือดที่เปลี่ยนแปลง และพบว่าผลกระทบนี้รุนแรงขึ้นประมาณ 10% ในผู้สูงอายุ สะท้อนว่าสมองของผู้สูงอายุอาจเปราะบางต่อผลกระทบของมื้ออาหารมากกว่า”
ทั้งสองยังชี้ว่าการวิจัยก่อนหน้านี้พบว่า มื้ออาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูงเพิ่มสารอนุมูลอิสระที่ทำลายเซลล์ และลดไนตริกออกไซด์ ซึ่งช่วยให้หลอดเลือดคลายตัวและสนับสนุนการลำเลียงออกซิเจนและกลูโคสไปทั่วร่างกาย

ด้วยเหตุนี้ สมาคมหัวใจอเมริกันจึงแนะนำให้จำกัดไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 6% ของพลังงานทั้งหมดต่อวัน
สำหรับผู้ที่บริโภควันละ 2,000 แคลอรี หมายความว่าควรได้รับไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 120 แคลอรี หรือประมาณ 13 กรัมต่อวัน
ขีดจำกัดนี้สามารถเกินได้ง่าย เพียงเนย 1 ช้อนโต๊ะ ก็มีไขมันอิ่มตัวประมาณ 7 กรัม ขณะที่เบคอน 2 แผ่น มีไขมันอิ่มตัวประมาณ 3 กรัม
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เปลี่ยนไขมันอิ่มตัวเป็นไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง เช่น พบในปลามัน วอลนัท เมล็ดพืช อะโวคาโด และน้ำมันมะกอก ซึ่งมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงโรคหัวใจที่ลดลง
อย่างไรก็ดี Marley และ Bailey เตือนว่าพวกเขายังไม่ทราบว่าสมองตอบสนองต่อมื้ออาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่งอย่างไร
ทั้งสองยังชี้ว่า ข้อจำกัดสำคัญของการศึกษานี้คือไม่ได้พิจารณาว่าสมองผู้หญิงตอบสนองต่อมื้ออาหารไขมันอิ่มตัวสูงอย่างไร
“นี่คือช่องว่างสำคัญในความรู้ของเรา เพราะผู้หญิงมีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองและภาวะสมองเสื่อมในวัยสูงอายุมากกว่าผู้ชาย” พวกเขากล่าว
แม้เป็นเช่นนั้น พวกเขาก็หวังว่าผลการศึกษานี้จะสะท้อนถึงความสำคัญของโภชนาการที่เหมาะสมทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
“การศึกษาของเราเตือนใจได้อย่างทันท่วงทีว่า อาหารไม่เพียงส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อร่างกายและสมองของเราแบบเรียลไทม์อีกด้วย” พวกเขาเขียนไว้