ตำนาน "การ์ตูนแมว" ลายเส้นน่ารัก "แต่ห้ามเด็กดู" ฉาก 20+ ผู้ใหญ่ดูยังอึ้ง
Fritz the Cat การ์ตูนแมวสุดแสบ ที่ไม่ได้สร้างมาเพื่อให้เด็กดู
หลายคนเมื่อเห็นตัวละครที่เป็นสัตว์ในรูปแบบการ์ตูน อาจจะคิดว่าเป็นสื่อบันเทิงสำหรับเด็กโดยทันที แต่สำหรับ Fritz the Cat แมวสุดกวนจากยุค 60s ความคิดนั้นเป็นสิ่งที่ผิดมหันต์ เพราะนี่คือภาพยนตร์อนิเมชั่นสำหรับผู้ใหญ่เรื่องแรกของสหรัฐอเมริกาที่ได้รับการจัดเรท X ซึ่งเต็มไปด้วยเนื้อหาทางเพศ ยาเสพติด และการวิจารณ์สังคมอย่างเผ็ดร้อน
จุดเริ่มต้นจากลายเส้นใต้ดินสุดขบถ
ตัวละคร Fritz the Cat ถือกำเนิดขึ้นในปี 1959 จากฝีมือของ โรเบิร์ต ครัมบ์ (Robert Crumb) ศิลปินการ์ตูนใต้ดิน (Underground Comix) ชื่อดัง เขาได้สร้างสรรค์เรื่องราวของแมวเจ้าสำราญตัวนี้ขึ้นมา โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์ชีวิตของแมวที่เขาเลี้ยงเอง เรื่องราวของฟริตซ์ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1965 และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในแวดวงวัฒนธรรมต่อต้าน (Counter-culture) การ์ตูนของครัมบ์ไม่ได้มีไว้เพื่อความบันเทิงใสๆ แต่เป็นการเสียดสีสังคม วัฒนธรรมฮิปปี้ การเมือง และค่านิยมต่างๆ ในยุคนั้นอย่างตรงไปตรงมา ผ่านการผจญภัยสุดเพี้ยนของเจ้าแมวฟริตซ์ที่วันๆ เอาแต่หมกมุ่นเรื่องเซ็กซ์และยาเสพติด
สู่ภาพยนตร์อนิเมชั่นเรท X เรื่องแรกในประวัติศาสตร์
ในปี 1972 ผู้กำกับ ราล์ฟ บัคชิ (Ralph Bakshi) ได้นำเรื่องราวของ Fritz the Cat มาสร้างเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นขนาดยาว และสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องแรกที่ได้รับการจัดเรท X จากสมาคมภาพยนตร์แห่งอเมริกา (MPAA) ซึ่งหมายถึงห้ามผู้ชมที่อายุต่ำกว่า 17 ปีเข้าชมโดยเด็ดขาด สาเหตุที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกจัดเรท X มาจากเนื้อหาที่โจ่งแจ้งและรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นฉากการร่วมเพศอย่างชัดเจน การใช้ยาเสพติด ความรุนแรง และการใช้ภาษาหยาบคายตลอดทั้งเรื่อง ภาพยนตร์ได้ถ่ายทอดเรื่องราวการเดินทางของฟริตซ์ที่หนีออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อแสวงหาอิสรภาพและประสบการณ์ชีวิต แต่กลับต้องเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์วุ่นวายต่างๆ ทั้งการจลาจลทางเชื้อชาติ และกลุ่มปฏิวัติหัวรุนแรง
เนื้อหาหนักหน่วงที่ผู้ใหญ่ยังต้องขบคิด
แม้ลายเส้นจะดูเป็นการ์ตูน แต่เนื้อหาของ Fritz the Cat กลับหนักอึ้งและซับซ้อน ภาพยนตร์เรื่องนี้วิพากษ์วิจารณ์สังคมอเมริกันในยุค 60s อย่างไม่เกรงใจ ทั้งประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างเชื้อชาติ ความล้มเหลวของกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง และความหน้าไหว้หลังหลอกของเหล่าปัญญาชนในยุคนั้น ตัวละครฟริตซ์เองก็ถูกนำเสนอในฐานะตัวแทนของคนหนุ่มสาวที่ต่อต้านสังคม แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนขี้ขลาดและเห็นแก่ตัว ทำให้ตัวละครนี้มีความเป็นมนุษย์ที่สมจริงมากกว่าตัวการ์ตูนทั่วๆ ไป ด้วยเหตุนี้เอง Fritz the Cat จึงไม่ใช่แค่การ์ตูนหยาบโลน แต่เป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์และกระจกสะท้อนสังคมในยุคสมัยของมัน โดยสรุปแล้ว แม้หน้าตาของ Fritz the Cat จะดูเหมือนการ์ตูนสัตว์โลกน่ารัก แต่เนื้อหาภายในกลับเต็มไปด้วยประเด็นสำหรับผู้ใหญ่โดยเฉพาะ ทั้งเรื่องเพศ ยาเสพติด และการเมืองที่ซับซ้อน จึงเป็นอนิเมชั่นที่ไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชนอย่างยิ่ง แต่สำหรับผู้ใหญ่ที่สนใจในประวัติศาสตร์อนิเมชั่นและวัฒนธรรมป๊อป นี่คือผลงานชิ้นสำคัญที่กล้าฉีกกรอบและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการ
