โศกนาฏกรรมการ "ผายลม" ที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ คร่าชีวิตผู้คนกว่า 10,000 ราย
เรามักล้อเล่นกันเกี่ยวกับการผายลมที่เงียบงันแต่เป็นอันตราย แต่ในกรณีของทหารโรมันคนหนึ่ง การผายลมของเขาทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 10,000 คน
แม้มันอาจฟังดูเป็นเรื่องตลกหรือเหมือนเด็ก ๆ แต่แท้จริงแล้วทุกคนล้วนมีประสบการณ์นี้เกือบทุกวัน และกลิ่นที่เกิดขึ้นยังสะท้อนสภาวะร่างกายของเราได้ไม่น้อย
ที่น่ากังวลคือ ไม่ว่าจะเป็นการผายลมออกมา หรือกลั้นไว้นานเกินไป ต่างก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้

แต่เรื่องราวจริงเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 570 ก่อนคริสตกาล ตามบันทึกของนักประวัติศาสตร์ชาวยิวชื่อดัง ฟลาเวียส โจเซฟัส ทหารโรมันคนหนึ่งกลับทำให้ผู้คนหลายพันคนเสียชีวิตโดยไม่ได้ตั้งใจ หลังเขาคิดว่าตลกที่จะตดในวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่ง
การจำลองสุดแปลกจากช่อง The Art of War บน YouTube ได้นำเหตุการณ์สุดโด่งดังนี้มานำเสนอ พร้อมอธิบายอย่างชัดเจนว่าทำไมการผายลมครั้งนั้นถึงคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก
ในหนังสือสงครามชาวยิว เล่ม 2 บทที่ 11 โจเซฟัสอธิบายว่าการผายลมครั้งนั้นเป็นชนวนให้เกิดความโกลาหลและความรุนแรงภายในวิหาร
เขาเขียนไว้ว่า “เมื่อฝูงชนมารวมกันที่เยรูซาเล็ม เพื่อเทศกาลขนมปังไม่มีเชื้อ และกองทหารโรมันยืนเฝ้าอยู่บริเวณวิหาร เพราะพวกเขามักมีอาวุธและเฝ้าระวังในเทศกาล เพื่อป้องกันการกระทำใด ๆ ของฝูงชนที่มารวมกัน
หนึ่งในทหารถอยผ้าคลุมออก และย่อตัวลงในท่าที่ไม่เหมาะสม เผยให้เห็นก้นแก่ชาวยิว พร้อมเอ่ยคำพูดตามท่าทางนั้น
“สิ่งนี้ทำให้ฝูงชนทั้งหมดโกรธเกรี้ยวและตะโกนเรียก คูมานุส ให้ลงโทษทหารคนนั้น”
คูมานุส และผู้คนที่รับไม่ได้กับสิ่งที่ออกมาจากก้นของทหารโรมัน จึงตัดสินใจขว้างก้อนหินกลับ กลายเป็นการจลาจล
ทหารเสริมกำลังมาถึง และความโกลาหลก็ขยายใหญ่ขึ้นอย่างมหาศาล มีผู้เสียชีวิตถึง 10,000 คน ทั้งจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นหรือถูกเหยียบจนเสียชีวิตจากฝูงชนมหาศาล