อภิมหาโครงการร้างอันดับ 1 ของจีน เคยหยุดก่อสร้าง 6 ปี ตอนนี้กลายเป็นโรงแรมหรู
อภิมหาโครงการร้างอันดับ 1 ของประเทศ เคยหยุดก่อสร้างนานถึง 6 ปี ปัจจุบันกลายเป็นโรงแรมหรู และถูกจองเต็มในช่วงวันหยุดยาวชาติจีน 11 วัน
มณฑลกุ้ยโจว เมืองตูซาน เคยตกเป็นข้อถกเถียงหลังทุ่มงบหลายร้อยล้านหยวนสร้าง “อภิมหาโครงการร้างอันดับ 1 ของประเทศ” หลังมีบริษัทลงทุนที่มีพื้นฐานจากรัฐเข้ามารับช่วงต่อ ปัจจุบันได้เปลี่ยนโฉมกลายเป็นโรงแรมแล้ว

ตามสื่อจีน Hongxing News และข้อมูลจากแพลตฟอร์มท่องเที่ยว Ctrip โรงแรมแห่งนี้มีชื่อว่า “Zilinshan Haolivilla Hotel” ปัจจุบันเป็นโรงแรมหรูอันดับ 1 ของเขตตูซาน มีคะแนนรีวิวสูงถึง 4.7 ดาว มีห้องพักทั้งหมด 376 ห้อง
ตามข้อมูลการจองเมื่อวันที่ 25 กันยายน ห้อง Standard Twin Bed ของโรงแรมราคาคืนละ 361 หยวน (ประาณ 1,600 บาท) ส่วนห้อง Business Suite with a King-size bed ราคาคืนละ 889 หยวน (ประมาณ 4,000 บาท)
พนักงานต้อนรับของโรงแรมระบุว่า โรงแรมเริ่มทดลองให้บริการปลายปีที่แล้ว และเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคมปีนี้ อัตราการเข้าพักปกติอยู่ที่ประมาณ 60%
สำหรับช่วงวันชาติจีน (Golden Week) คาดว่าจะเต็มทุกห้อง โดยห้องคู่หรูที่มองเห็นวิวสะดวกที่สุด

โรงแรมแห่งนี้มีชื่อว่า Zilinshan Haolivilla เดิมเป็นโครงการย่อยของแหล่งท่องเที่ยว Jingxin Valley ในเขตตูซาน เริ่มก่อสร้างในปี 2016 โดยรัฐบาลท้องถิ่นได้กู้ยืมเงินประมาณ 200 ล้านหยวน (ประมาณ 904 ล้านบาท) แต่ต่อมาสะดุดเพราะปัญหาสภาพคล่อง จนกลายเป็นตึกร้าง
ในปี 2019 พาน จื้อหลี่ เลขาธิการเทศบาลตูซานในขณะนั้น ซึ่งมีฉายาว่า “เลขาธิการเทศบาลที่กล้าเป็นหนี้และกล้าใช้เงินที่สุดในประเทศ” ถูกตัดสินจำคุก 12 ปี จากการก่อหนี้โดยไม่คำนึงถึงความเป็นอยู่ของประชาชน
เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว สื่อจีนลงพื้นที่รายงานว่า โครงการดังกล่าวถูกปรับโฉมเป็นโรงแรมรีสอร์ตหรูใหม่ทั้งหมด และงานก่อสร้างเข้าสู่ขั้นตอน “เก็บรายละเอียดสุดท้าย” แล้ว

เขตตูซานอยู่ภายใต้การปกครองของเขตปกครองตนเองชนเผ่าปุ่ย-เมี่ยวกว่านหนาน มณฑลกุ้ยโจว ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของกุ้ยโจว ติดกับเขตหนานตัน มณฑลกวางสี เป็นเส้นทางผ่านสำคัญจากมณฑลกุ้ยโจวและภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนไปยังท่าเรือของสองมณฑลกวางตุ้งและกวางสี จึงได้รับสมญาว่า “ประตูใต้ของกุ้ยโจว”
พื้นที่นี้มีชนเผ่าพื้นเมืองอาศัยอยู่หลายกลุ่ม เช่น ปุ่ย, ชุ่ย, เมี่ยว และชนเผ่าอื่น ๆ รวม 12 ชนเผ่า แม้จะมีทำเลทางภูมิศาสตร์ที่ได้เปรียบ แต่พื้นฐานโครงสร้างพื้นฐานยังล้าหลัง อุตสาหกรรมยังอ่อนแอ จนกระทั่งเดือนมีนาคม 2020 จึงพ้นจากการถูกจัดให้อยู่ในรายชื่อเขตยากจนระดับประเทศ