ท้าให้ลอง! 5 ผักที่หลายคนกินไม่ไหว แต่แฝงคุณประโยชน์ล้นเหลือ

01/10/2025 (17:21 น.)

ไม่ใช่ทุกคนที่จะกินผักได้ง่ายๆ โดยเฉพาะผักบางชนิดที่ขึ้นชื่อเรื่อง รสชาติขม กลิ่นแรง หรือเนื้อสัมผัสแปลกๆ จนหลายคนส่ายหน้า แต่เชื่อหรือไม่ว่า ผักเหล่านี้กลับอัดแน่นไปด้วย ประโยชน์ต่อสุขภาพ ที่หากใครฝืนกินได้ถือว่าเป็น “สายแข็งตัวจริง” เพราะนอกจากจะได้ลิ้มลองรสชาติท้าทายแล้ว ยังได้สารอาหารดีๆ ที่ช่วยบำรุงร่างกายแบบจัดเต็มอีกด้วย วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ 5 ผักที่กินยากที่สุด พร้อมสรรพคุณสุดว้าวที่ทำให้คุณอาจอยากลองกินมากขึ้นก็ได้!

5 ผักที่กินยากที่สุด รสชาติท้าทาย กลิ่นสัมผัสเฉพาะตัว ใครกินสดๆ ได้หมดทุกข้อถือว่าเป็นสายแข็ง

1. ผักคาวตอง (พลูคาว)

ขึ้นชื่อเรื่องกลิ่นคาวเฉพาะตัวคล้ายกลิ่นคาวปลา จนหลายคนไม่กล้าแตะ แต่สำหรับคนที่ชอบ นับเป็นผักสมุนไพรชั้นเลิศ ไม่ใช่แค่ใบเท่านั้น ส่วนรากก็กินได้

ประโยชน์เด่น: เสริมภูมิคุ้มกัน ต้านการอักเสบ รักษาโรคทางเดินหายใจและระบบทางเดินอาหาร ช่วยสมานแผล รวมถึงมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อราหลายชนิด

2. มะระขี้นก และ มะระจีน

ขึ้นชื่อเรื่อง “ความขม” ที่หลายคนเบือนหน้าหนี แต่กลับเป็นผักที่โอกินาวายกให้เป็นกุญแจสู่ความอายุยืน

ประโยชน์เด่น: ต้านเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือด ฟอกเลือด ต้านมะเร็ง เสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงสายตา กระดูก และช่วยย่อยอาหาร

3. สะเดา

ผักพื้นบ้านรสขมจนหลายคนเข็ด แต่ชาวไทยยังคงหาวิธีกินคู่กับน้ำปลาหวานหรือปลาย่าง

ประโยชน์เด่น: ดีท็อกซ์เลือด รักษาโรคผิวหนัง ต้านเชื้อราและไวรัส ลดไข้มาเลเรีย บรรเทาอาการปวดข้อ ช่วยย่อยอาหาร บำรุงเหงือกฟัน และมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง

4. กระเจี๊ยบเขียว

เมือกลื่น ๆ จากฝักทำให้หลายคนไม่ชอบสัมผัส แต่กลับเป็นผักที่ดีต่อระบบย่อยและขับถ่าย

ประโยชน์เด่น: ลดน้ำตาลและคอเลสเตอรอลในเลือด บำรุงระบบย่อยอาหาร เคลือบแผลกระเพาะ ลดกรดไหลย้อน มีโฟเลตสูงเหมาะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

5. กระเทียม

ผักเครื่องเทศที่ทุกคนคุ้นเคย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะกินได้ เพราะมีกลิ่นฉุนแรงและรสเผ็ดร้อนเมื่อกินสดๆ เรียกว่าถ้าไม่รักก็เกลียดไปเลย

ประโยชน์เด่น: กระเทียมก็ถือเป็นซูเปอร์ฟู้ด ที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ลดคอเลสเตอรอลและความดันโลหิต บำรุงหัวใจ ต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ ฆ่าเชื้อโรคบางชนิด ลดความเหนื่อยล้า และอาจมีคุณสมบัติป้องกันมะเร็งบางชนิด

ผักทุกชนิดล้วนมีคุณค่าทางโภชนาการและประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่การรับประทานควรอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินไป โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือกำลังใช้ยารักษาโรค ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการก่อนเสมอ เพราะสารบางชนิดในผักอาจส่งผลต่ออาการของโรคหรือการออกฤทธิ์ของยาได้

สรุป 

ผักเหล่านี้แม้จะ “กินสดยาก” เพราะรสชาติหรือกลิ่นที่ไม่เป็นมิตร แต่ถ้าใครกินได้ถือว่าสายแข็งตัวจริง แถมยังได้สุขภาพที่แข็งแรงแบบจัดเต็มอีกด้วย

แล้วคุณล่ะ...มีผักชนิดอื่นๆ ที่รู้สึกว่ากินยากที่สุดบ้างไหม?