เนื้อหาในหมวด ข่าว

หากลิฟต์ตก แล้ว \

หากลิฟต์ตก แล้ว "กระโดดขึ้น" ในจังหวะที่ใกล้ถึงพื้น จะช่วยให้รอดชีวิตได้หรือไม่?

ความเชื่อผิด! "กระโดดตอนลิฟต์ตก" ไม่ช่วยให้รอด แต่ทำให้เจ็บหนักกว่าเดิม...

หลายคนอาจเคยได้ยินคำแนะนำว่า ระหว่างที่เกิดอุบัติเหตุลิฟต์ตกลงมา ควรกระโดดขึ้นในช่วงเวลาที่ใกล้ถึงพื้น เพื่อช่วยลดแรงกระแทกและเพิ่มโอกาสรอดชีวิต แต่ความจริงแล้ว คำแนะนำนี้ไม่ถูกต้องเสมอไป

ความเป็นจริงของการตกของลิฟต์

ปัจจุบัน อาคารสูง อพาร์ตเมนต์ โรงแรม หรือย่านธุรกิจต่างๆ ผุดขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับดอกเห็ด และลิฟต์ก็เป็นเครื่องมือการขนส่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเรา ความสะดวกสบายของลิฟต์นั้นปฏิเสธไม่ได้ ใครๆ ก็สามารถขึ้นจากชั้น 1 ไปถึงชั้น 25 ได้อย่างรวดเร็วในพริบตา 

อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของความสะดวกสบายดังกล่าวก็คือความกลัวที่จะ "ตกลิฟต์"

จากสถิติพบว่าอุบัติเหตุจากลิฟต์เกิดขึ้นน้อยมาก โดยมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุเพียง 0.00000015% เท่านั้น ส่วนใหญ่ของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมักเกิดจากการติดตั้งหรือซ่อมบำรุงที่ไม่ถูกต้อง หรือผู้ใช้ลิฟต์ที่ติดอยู่ระหว่างชั้น

แต่โชคร้ายที่วันหนึ่งคุณตกอยู่ใน 0.00000015% นั้น คุณควรทำอย่างไร?

กระโดดขึ้นช่วยลดแรงกระแทกได้จริงหรือ?

บางคนคิดว่าการกระโดดขึ้น ตอนที่ลิฟต์ใกล้ๆ ลงถึงพื้นนั้น จะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงแรงกระแทกที่รุนแรงได้ใช่หรือไม่? คำตอบคือไม่!

ความคิดนี้อาจใช้ได้เฉพาะในกรณีที่ลิฟต์ตกแบบอิสระในระยะทางสั้น ๆ และมีความเร็วต่ำเท่านั้น (เช่น ตกจากชั้น 3 ระยะประมาณ 7 เมตรถึงพื้น)

เนื่องจากหากคุณตกลงมาจากที่สูง ในทางทฤษฎีคุณจะต้องกระโดดด้วยความเร็วและจังหวะเดียวกับที่ลิฟต์กำลังเคลื่อนที่ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นการกระโดดจะยิ่งเพิ่มอันตรายมากขึ้น

ดังนั้น คำแนะนำในการกระโดดขึ้นเมื่อรถลิฟต์ตกนั้น ไม่สามารถช่วยลดแรงกระแทกได้จริง เนื่องจากความเร็วในการตกของลิฟต์อาจสูงถึง 160 กม./ชม. ในขณะที่มนุษย์สามารถกระโดดได้เพียง 3-4 กม./ชม. เท่านั้น การกระโดดขึ้นจะไม่สามารถเพิ่มความเร็วได้ทันกับความเร็วของลิฟต์ที่ตกลงมา ดังนั้น การกระโดดขึ้นอาจทำให้เกิดอันตรายมากขึ้น

วิธีปฏิบัติที่ถูกต้องเมื่อรถลิฟต์ตก

หากเกิดเหตุการณ์ลิฟต์ตก ควรปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้

  • ตั้งสติและไม่ตื่นตระหนก: ความตื่นตระหนกอาจทำให้การตัดสินใจผิดพลาด
  • นอนราบลงกับพื้น: การนอนราบจะช่วยกระจายแรงกระแทกไปทั่วร่างกาย ลดความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บ
  • หลีกเลี่ยงการกระโดดหรือยืนตรง: การกระโดดหรือยืนตรงอาจเพิ่มความเสี่ยงในการบาดเจ็บ
  • รอความช่วยเหลือ: หากลิฟต์หยุดนิ่ง ควรกดปุ่มฉุกเฉินหรือใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่
  • การกระโดดขึ้นเมื่อรถลิฟต์ตกไม่สามารถช่วยให้รอดชีวิตได้จริง การปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้องและตั้งสติในสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

    ยังด่วนอยู่ไหม... หนุ่มรีบไปทำงาน ตบลิฟต์ 3 ที \

    ยังด่วนอยู่ไหม... หนุ่มรีบไปทำงาน ตบลิฟต์ 3 ที "หลุดทั้งแผง" หน้าซีดรับโทษอ่วม! (มีคลิป)

    หนุ่มหัวร้อน รีบไปทำงาน ตบลิฟต์ 3 ทีประตูร่วงมาทั้งแผง ศาลสั่งจำคุก 5 เดือน ปรับ 3.8 หมื่นบาท

    ใครสอนมา?! ด.ช.รอดตายไร้เจ็บ แม่เห็นคลิปอึ้ง วิธี \

    ใครสอนมา?! ด.ช.รอดตายไร้เจ็บ แม่เห็นคลิปอึ้ง วิธี "ชะลอความเร็ว" ลิฟต์ร่วงกว่า 10 ชั้น

    นาทีฉุกเฉิน ลิฟต์ร่วงจากชั้น 9 ลงใต้ดิน ด.ช.ข้างในปลอดภัย ตะลึงมีวิธี "ชะลอ" ความเร็วตอนหล่นลงมา