ไปตลาดเจอผัก 3 ชนิดนี้ อย่าลืมซื้อทันที! ปลอดสารพิษ คุณประโยชน์ "เทียบเท่าโสม"
เลือกซื้อ 3 ผักนี้จากตลาด รับรองว่าปลอดสารพิษ แถมยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูงไม่แพ้โสมเลย
เนื่องจากผู้คนหันมาใส่ใจเรื่องอาหารปลอดภัยมากขึ้น ผักที่ปลูกโดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลงจึงเป็นที่ต้องการอย่างมาก
นี่คือ 3 ผักที่มีประโยชน์เทียบเท่าโสม คุณควรซื้อติดมือกลับบ้านเมื่อเจอที่ตลาด เพราะนอกจากจะสะอาดแล้ว ยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย
1. มันเทศจีน
มันเทศจีนได้รับสมญานามว่าเป็น "อาหารเซียน" มาอย่างยาวนาน ในตำรับยาจีนจัดเป็นทั้งสมุนไพรและอาหารชั้นยอด มีสรรพคุณในการบำรุงม้าม บำรุงลมปราณ บำรุงไต และบำรุงปอด อุดมด้วยเอนไซม์ วิตามิน และแร่ธาตุที่ช่วยย่อยอาหาร ลดระดับน้ำตาลในเลือด แก้อาการไอ และยังเชื่อกันว่าช่วยให้อายุยืนยาวอีกด้วย
มันเทศจีนเติบโตตามธรรมชาติ ไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลง จึงปลอดภัยต่อสุขภาพอย่างยิ่ง สามารถนำมาต้ม นึ่ง หรือตุ๋นกับไก่หรือหมู ก็จะได้เมนูอร่อยที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางอาหาร

2. กระเจี๊ยบเขียว
กระเจี๊ยบเขียวเป็น "ดาวเด่น" ของฤดูใบไม้ร่วง และยังถูกขนานนามว่าเป็น "ทองคำสีเขียวแห่งพืชผัก" อีกด้วย กระเจี๊ยบเขียวมีเนื้อกรอบนุ่ม รสชาติหวาน มีวิตามินซีและใยอาหารละลายน้ำสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงผิวพรรณ และยังช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ป้องกันอาการท้องผูกได้ดี
สิ่งที่พิเศษคือ กระเจี๊ยบเขียว มีเมือกตามธรรมชาติที่ทำให้แมลงไม่เข้าใกล้ จึงแทบไม่ต้องฉีดยาฆ่าแมลงเลย วิธีที่ง่ายที่สุดคือนำไปต้มจิ้มกับน้ำปลาผสมกระเทียม หรือนำไปผัดกับไข่ก็ได้สีสันน่าทานและรสชาติอร่อย ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้กินกระเจี๊ยบเขียวสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อร่างกาย

3. กระจับ
กระจับเป็นพืชน้ำที่ได้ชื่อว่าเป็น "ไข่มุกแห่งบึง" ด้วยเปลือกที่แข็งตามธรรมชาติ ทำให้มันเติบโตได้โดยไม่ต้องพึ่งยาฆ่าแมลง ตามตำราแพทย์แผนโบราณ กระจับมีสรรพคุณในการบำรุงม้ามและช่วยให้จิตใจสงบ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่รู้สึกอ่อนเพลียในช่วงเปลี่ยนฤดู
กระจับสามารถกินสดได้เลย เพียงแค่แกะเปลือกออกก็จะพบเนื้อสีขาวนวล รสหวาน เย็น และกรอบ ส่วนการนำไปปรุงอาหารนั้น กระจับที่นำไปตุ๋นกับหมูสามชั้นจะช่วยให้รสชาติกลมกล่อม เนื้อหมูจะมันน้อยลง ในขณะที่เนื้อกระจับจะนุ่มและหอมมันน่ากินยิ่งขึ้น
ผักทั้งสามชนิดนี้ไม่เพียงแต่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและสะอาด แต่ยังช่วยส่งเสริมวิถีชีวิตที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ แม้ราคาจะสูงกว่าเล็กน้อย แต่ก็นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อเปลี่ยนรสชาติให้มื้ออาหาร และที่สำคัญคือเป็นการดูแลสุขภาพของทุกคนในครอบครัว