
ช่วงที่อากาศเย็น "ไม่เปิดแอร์" ควรถอดปลั๊กออกไหม? ปรากฏว่าหลายคนเข้าใจผิดมานาน
จริงหรือไม่? แอร์ไม่ได้ใช้งาน ควรถอดปลั๊กและล้างทำความสะอาด เพื่อประหยัดไฟและยืดอายุการใช้งาน
เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาว อากาศเริ่มเย็นลง หลายบ้านจึงหยุดใช้เครื่องปรับอากาศชั่วคราว แต่หลายคนมักเพียงแค่กดปิดแอร์ด้วยรีโมต โดยไม่ได้ถอดปลั๊กไฟออก ทำให้เครื่องยังอยู่ในโหมดสแตนด์บายโดยไม่รู้ตัว แล้วแบบนี้ถูกต้องหรือไม่?
ในประเทศไทย เครื่องปรับอากาศมักถูกใช้งานหนักในช่วงหน้าร้อนที่อากาศร้อนจัด โดยเฉพาะระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ส่วนช่วงฤดูฝนและฤดูหนาวที่อากาศเย็นลง ความต้องการใช้งานก็ลดลงตามไปด้วย บางบ้านอาจหยุดใช้งานแอร์ไปนานหลายเดือน
กล่าวได้ว่า ตลอดทั้งปี แอร์อาจถูกใช้งานจริงจังแค่ไม่กี่เดือน ที่เหลือจะอยู่ในสภาพพักใช้งาน ดังนั้นแล้ว... ควรถอดปลั๊กเครื่องปรับอากาศหรือไม่?
คำตอบคือ "ควรถอดปลั๊ก" เพราะหากเสียบปลั๊กทิ้งไว้ แม้จะไม่ได้เปิดใช้งาน ตัวเครื่องยังคงอยู่ในโหมดสแตนด์บาย มีไฟเลี้ยงแผงวงจรและหม้อแปลงอยู่ตลอดเวลา
ขั้นแรก: ถอดปลั๊กแหล่งจ่ายไฟ
หากคุณปิดเครื่องด้วยรีโมทเพียงอย่างเดียว เครื่องปรับอากาศจะยังคงอยู่ในโหมดสแตนด์บาย โดยที่ยังมีไฟฟ้าเสียบอยู่ตลอดเวลา ณ จุดนี้ แผงวงจรและหม้อแปลงภายในเครื่องจะยังคงทำงานอยู่เบื้องหลังต่อไป
ในโหมดสแตนด์บาย เครื่องปรับอากาศอาจกินไฟเพียงไม่กี่วัตต์ไปจนถึงหลายสิบวัตต์ เมื่อไม่ได้ใช้งานประมาณ 10 เดือนในหนึ่งปี ปริมาณไฟฟ้าที่สูญเสียไปนี้จะสะสมเป็นจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องปรับอากาศอัจฉริยะ (ที่มีการเชื่อมต่อ WiFi/IoT) จำเป็นต้องรักษาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อควบคุมจากระยะไกล ซึ่งอาจกินไฟได้ถึง 5-15 วัตต์ จากการประมาณการ การไม่ถอดปลั๊กอาจทำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นได้
การถอดปลั๊กไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศอีกด้วย ส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ภายในเครื่องปรับอากาศสมัยใหม่ เช่น แผงวงจรรวม จะเสื่อมสภาพหากทิ้งไว้ในโหมดสแตนด์บาย ส่งผลให้เครื่องมีโอกาสเสียหายเร็วขึ้น
ขั้นที่สอง: ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ
หลังจากใช้งานหนักในช่วงหน้าร้อน แผ่นกรองอากาศของแอร์จะมีฝุ่นละออง คราบสกปรก และเชื้อโรคสะสม หากไม่ทำความสะอาดก่อนเก็บไว้ อาจกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราและแบคทีเรีย ส่งผลเสียต่อสุขภาพเมื่อกลับมาใช้งานครั้งต่อไป
ยิ่งไปกว่านั้น การทำความเย็นของแอร์จะทำให้เกิดความชื้นสะสมภายใน หากไม่ล้างและปล่อยทิ้งไว้ในที่ชื้น ก็อาจทำให้เกิดกลิ่นอับ เชื้อรา และปัญหาคุณภาพอากาศในภายหลัง
วิธีทำความสะอาดเบื้องต้นสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงเปิดฝาครอบแอร์ ถอดแผ่นกรองออกมาล้างด้วยน้ำสะอาดผสมสบู่อ่อน แล้วตากให้แห้งก่อนนำกลับเข้าไป ส่วนช่องลมให้ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดเช็ดให้สะอาด
- เปิดความหมายของ "จำนวนดาว" บนฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ที่หลายคนเข้าใจผิด!
- รู้ไว้ดีกว่า! ข้าวสุกแล้วต้อง "ถอดปลั๊ก" หม้อหุงข้าวหรือไม่ ปรากฏว่าหลายคนทำผิดมาตลอด
หากคุณล้างแอร์และถอดปลั๊กเรียบร้อยแล้ว พอถึงหน้าร้อนปีหน้า ก็สามารถเปิดใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาทำความสะอาดท่ามกลางอากาศร้อนจัด และยังมั่นใจได้ว่าอากาศที่ปล่อยออกมาจะสะอาดและปลอดภัย
การถอดปลั๊กและล้างแอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เป็นเรื่องเล็กๆ ที่ให้ผลลัพธ์ยิ่งใหญ่ ทั้งช่วยประหยัดค่าไฟ รักษาสุขภาพ และยืดอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศได้อย่างคุ้มค่า