ไส้ติ่ง มีประโยชน์ยังไง? อวัยวะที่เป็นระเบิดเวลา ความจริงอาจไม่ไร้ค่าอย่างที่คิด
ไส้ติ่ง มีประโยชน์ยังไง? อวัยวะที่เป็นระเบิดเวลา ไม่รู้ว่าจะอักเสบหรือแตกตอนไหน งานวิจัยเผยความจริงอาจไม่ไร้ค่าอย่างที่คิด
ไส้ติ่ง (Appendix) คือ อวัยวะขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นท่อปลายตันที่ยื่นออกมาจาก ลำไส้ใหญ่ส่วนต้น บริเวณท้องน้อยด้านขวาของมนุษย์ แม้ว่าจะเชื่อกันว่าในอดีตอาจมีบทบาทในการย่อยอาหาร แต่ปัจจุบันไม่ถือว่ามีหน้าที่สำคัญต่อระบบย่อยอาหารในมนุษย์
เมื่อผ่าไส้ติ่งออก เรามักถูกบอกว่าสุขภาพจะไม่เปลี่ยนแปลง เพราะไส้ติ่งถูกมองว่าเป็นอวัยวะฝ่อ ไร้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยช่วง 20 ปีที่ผ่านมาเริ่มเปลี่ยนมุมมอง ไส้ติ่งอาจมีบทบาทสำคัญต่อร่างกายมากกว่าที่คิด
อวัยวะเล็กที่เป็น “ระเบิดฝังตัว”
ไส้ติ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ด้านขวาของร่างกาย ใต้สะดือ แต่บางคนอาจเกิดมาไม่มี มีสองไส้ติ่ง หรืออยู่ด้านซ้าย บางครั้งรูปร่างคล้ายเกือกม้า ในผู้ใหญ่มีความยาวเฉลี่ย 9 ซม. อยู่บริเวณรอยต่อระหว่างลำไส้เล็กกับลำไส้ใหญ่
ไส้ติ่งมักถูกมองเป็น “ระเบิดเวลา” ของร่างกาย ในชีวิตหนึ่ง โอกาสที่คุณจะเป็นไส้ติ่งอักเสบอยู่ระหว่าง 6.7–8.6% (ประมาณ 1 ใน 10 ถึง 1 ใน 20) สาเหตุส่วนใหญ่คือการอุดตัน สุดท้ายอาจแตกและรั่วลงในช่องท้อง ทำให้เกิดการอักเสบ การติดเชื้อในกระแสเลือด และอาจถึงแก่ชีวิต วิธีที่นิยมที่สุดคือการผ่าตัดเอาไส้ติ่งออกเมื่ออักเสบ แต่การวิจัยพบว่าการใช้ยาปฏิชีวนะก็อาจช่วยได้ในบางกรณี
ไส้ติ่งอักเสบไม่ใช่เรื่องเล็ก บางครั้งยังกลายเป็นมะเร็งได้ แต่โอกาสเกิดน้อยมาก เพียงไม่กี่รายต่อประชากรล้านคนต่อปี

ไส้ติ่งกับระบบภูมิคุ้มกัน
งานวิจัยชี้ว่าไส้ติ่งอาจเป็น “ที่ปลอดภัย” ของแบคทีเรียดีในลำไส้ หลังท้องเสียท้องร่วง แบคทีเรียจากไส้ติ่งสามารถเข้าไปฟื้นฟูลำไส้ใหญ่ ทำให้ร่างกายกลับสู่ปกติ ในปัจจุบันประเทศที่มีน้ำดื่มสะอาดนี่อาจไม่สำคัญมาก แต่ในยุคก่อนความเจริญจะเข้าถึงมนุษย์ สิ่งนี้มีประโยชน์มาก
อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ของไส้ติ่งจะยิ่งลดน้อยลงมากในสังคมสมัยใหม่ เนื่องจากโอกาสเกิดโรคอหิวาห์หรือโรคบิดน้อยมาก แต่สำหรับในประเทศด้อยพัฒนา ไส้ติ่งยังคงมีประโยชน์กับประชากรในประเทศเหล่านั้นอยู่ รายงานบอกว่าในประเทศด้อยพัฒนานั้น มีอัตราการเกิดโรคไส้ติ่งอักเสบน้อยมากเมื่อเทียบกับในสหรัฐ
นอกจากนี้ ไส้ติ่งยังมีเนื้อเยื่อภูมิคุ้มกันสำคัญ โดยเฉพาะในวัยเด็ก แบคทีเรียในไส้ติ่งมีความหลากหลายและคล้ายกับลำไส้ใหญ่ จึงเป็นไปได้ว่าอวัยวะนี้มีบทบาทต่อระบบภูมิคุ้มกัน
มีงานวิจัยเชื่อมโยงไส้ติ่งกับโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง เช่น Ulcerative colitis การผ่าไส้ติ่งก่อนอายุ 20 ปีสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่ำ และผู้ที่เป็นโรคนี้หลังผ่าไส้ติ่ง มีโอกาสต้องผ่าลำไส้ใหญ่น้อยลง