เนื้อหาในหมวด ข่าว

เลี้ยงฉลองบ้านใหม่ 20 โต๊ะ เชิญเจ้านายด้วย 1 เดือนต่อมาถูกไล่ออก รู้เหตุผลทำโล่งใจ

เลี้ยงฉลองบ้านใหม่ 20 โต๊ะ เชิญเจ้านายด้วย 1 เดือนต่อมาถูกไล่ออก รู้เหตุผลทำโล่งใจ

จัดเลี้ยง 20 โต๊ะฉลองขึ้นบ้านใหม่ เชิญเจ้านายร่วมงาน แต่ 1 เดือนให้หลังกลับถูกไล่ออก พอรู้เหตุผลกลายเป็นโล่งใจสุด ๆ

เรื่องราวนี้ถูกแบ่งปันโดยผู้ใช้บัญชีชื่อ หลิว หมิง วัย 33 ปี บนแพลตฟอร์ม Toutiao ของประเทศจีน

ผู้คนมักกล่าวว่า "มีบ้านจึงจะสามารถทำงานได้อย่างมีความสุข" ดังนั้นการมีบ้านที่มั่นคงจึงเป็นหมุดหมายสำคัญในชีวิตของทุกคน สำหรับคู่สามีภรรยาอย่างเราที่หาเช้ากินค่ำ การเป็นเจ้าของบ้านสักหลังจึงมีความหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นมาก 

จัดเลี้ยง 20 โต๊ะฉลองบ้านใหม่

หลังจากเก็บหอมรอมริบมาหลายปี พร้อมกับได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัวทั้งสองฝ่าย ในที่สุดเมื่อปลายปีที่แล้ว เราสองคนก็สร้างบ้านสองชั้นที่ดูดีหลังหนึ่งในชานเมืองได้สำเร็จ แม้จะไม่หรูหราเท่าบ้านในตัวเมือง แต่สำหรับพวกเราแล้ว นี่คือ ความภาคภูมิใจและเป็นผลลัพธ์จากความพยายามอย่างไม่หยุดยั้ง ของเราสองคน

เพื่อเป็นการฉลองเหตุการณ์พิเศษนี้ ภรรยาและผมจึงตัดสินใจจัดงาน ขึ้นบ้านใหม่ ให้ใหญ่โตสมฐานะ เราว่าจ้างคนมาทำอาหารและจัดเตรียม โต๊ะจีนถึง 20 โต๊ะ เพื่อเชิญญาติสนิท มิตรสหาย และเพื่อนร่วมงานมาร่วมแสดงความยินดี

ในรายชื่อแขกจากบริษัท ผมได้ เชิญเจ้านาย ด้วย แต่เนื่องจากเขาเพิ่งย้ายมาทำงานได้เพียงครึ่งปี ผมจึงคิดแค่ว่าเชิญตามธรรมเนียมให้ครบถ้วน ไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะมา แต่ผิดคาด เจ้านายกลับมาร่วมงาน และแสดงความยินดีกับครอบครัวผมจริง ๆ เมื่อเห็นทุกคนหัวเราะพูดคุย และร่วมยินดีกับเรา ผมรู้สึก ภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ความพยายามของตนเองได้รับการยอมรับและร่วมฉลองจากทุกคน

ความสุขจางหาย ถูกไล่ออกหลังฉลองบ้านใหม่

ทว่าความยินดีนั้นอยู่ได้ไม่นาน ไม่ถึง 1 เดือนต่อมา ผมก็ได้รับแจ้งให้ออกจากงาน ทั้งที่ทำงานกับบริษัทนี้มาถึง 3 ปี

ข่าวนี้นับเป็นเรื่อง ร้ายแรงดังฟ้าผ่า ด้วยหลายสาเหตุ

  • ภาระหนี้สิน: บ้านเพิ่งสร้างเสร็จ เราสองคนยังคงมีหนี้สินที่ยืมมาจากญาติพี่น้องอยู่

  • ช่วงวัยวิกฤต: ผมกำลังอยู่ในวัย 33 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่เรียกว่า วิกฤตวัยกลางคน ทำให้การหางานใหม่เป็นเรื่องยาก

  • ความลงตัวของงานเดิม: ทั้งเงินเดือนและลักษณะงานเดิมค่อนข้างลงตัว ผมได้ทำงานตรงสาย และยังมีเวลาดูแลครอบครัว

  • นอกจากนี้ ผมก็ไม่เคยทำผิดร้ายแรงใด ๆ หรือมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานเลย ทำให้ยิ่ง ไม่ยอมรับ การถูกเลิกจ้างครั้งนี้ ผมจึงไปขอพบเจ้านายเพื่อขอคำอธิบาย แต่กลับได้รับคำตอบที่กำกวมว่า บริษัทกำลัง ปรับโครงสร้างบุคลากร ลดอายุเฉลี่ยของทีม และ ตัดตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม ออกไป

    ความจริงจากปากเพื่อนร่วมงาน: ถูกสงสัยว่าทุจริต

    ทว่าสิ่งที่ผมได้รับฟังจาก เพื่อนร่วมงานคนสนิทที่เป็นนักบัญชี กลับแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เพื่อนคนนี้เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เจ้านายกลับจากงานขึ้นบ้านใหม่ของผม เขาก็เริ่ม ตรวจสอบข้อมูลเงินเดือนและค่าตอบแทน ของผมอย่างลับ ๆ เพราะ สงสัยว่าผมทุจริต หรือยักยอกเงินของบริษัท

    เพื่อนร่วมงาน เล่าว่า "หลังจากกลับจากงานบ้านนายได้ไม่กี่วัน เจ้านายก็ขอให้ฉันดูสลิปเงินเดือนของนาย ตอนแรกฉันก็ไม่เข้าใจ จนกระทั่งเขาเรียกฉันเข้าห้องส่วนตัว และซักถามรายละเอียดเกี่ยวกับเงินเดือนและโบนัสของนายอย่างละเอียด ว่ามีช่องโหว่ในเอกสารไหม ฉันถึงเริ่มรู้สึกแปลก ๆ

    มาวันนี้ฉันถึงได้ตระหนักถึงความสงสัยของเจ้านาย อาจเป็นเพราะเห็นว่าเงินเดือนนายไม่ได้สูงมาก แต่กลับมีบ้านหลังใหญ่โตหรูหราขนาดนั้น..."

    ยิ่งฟังผมก็ยิ่งรู้สึกขมขื่นใจ บ้านหลังงาม ที่เป็นความภาคภูมิใจของครอบครัว กลับกลายเป็นสาเหตุ ที่ทำให้ผมต้องถูกไล่ออกจากงาน

    ที่มาของบ้าน: ไม่ได้มีมาง่าย ๆ

    ในความเป็นจริงแล้ว บ้านหลังนี้ถูกสร้างบนที่ดินดั้งเดิมที่ พ่อแม่ภรรยามอบให้ กับเราสองคน ภรรยาของผมก็ทำงานและเก็บออมมาได้จำนวนหนึ่ง

    ส่วนตัวผมเอง ก่อนจะย้ายมาทำงานที่บริษัทนี้ เคยทำงานอยู่กับบริษัทใหญ่ ซึ่งมีเงินเดือนค่อนข้างสูง ทำให้มีเงินเก็บสะสมอยู่บ้าง หลังจากมีครอบครัวแล้ว ผมจึงลาออกเพื่อมามีเวลาดูแลลูก ๆ มากขึ้น

    ดังนั้นบ้านหลังนี้จึงเป็นผลรวมจาก เงินเก็บสะสม เหล่านั้นบวกกับ เงินกู้ยืมจากครอบครัวทั้งสองฝ่าย ไม่ได้เป็นสิ่งที่เราได้มาอย่างปาฏิหาริย์หรือผิดปกติเลย

    ความโล่งใจที่ได้จากไป

    แต่เมื่อความจริงทุกอย่างเปิดเผย แทนที่จะรู้สึกโกรธ ผมกลับรู้สึก โล่งใจอย่างประหลาด ผมเข้าใจแล้วว่า ในสภาพแวดล้อมที่ ความสำเร็จส่วนตัวถูกตีความเป็นการทุจริต ในสายตาผู้นำ การทำงานต่อไปในระยะยาวก็มีแต่จะนำมาซึ่งความเหนื่อยล้าเท่านั้น

    ในบางที่ทำงาน "กฎ" ไม่ได้ถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน แต่ดำรงอยู่ในความคิดของผู้บริหารเพียงอย่างเดียว พวกเขาต้องการให้พนักงานขยัน แต่ ไม่ต้องการให้โดดเด่นเกินไป ต้องการความจงรักภักดี แต่ ไม่อนุญาตให้แสดงความสำเร็จหรือทรัพย์สินส่วนตัวมากเกินไป ความคลุมเครือเช่นนี้ทำให้พนักงานต้อง คอยคาดเดาเจ้านาย และใช้ชีวิตอย่างไม่กล้าแสดงออก โดยไม่เคยรู้เลยว่าขีดจำกัดที่ปลอดภัยนั้นอยู่ตรงไหน

    การตัดสินใจเดินหน้าเพื่อศักดิ์ศรี

    ผมยังตระหนักด้วยว่า เจ้านายที่ไม่ชัดเจนทั้งในความคิดเห็นและความคาดหวัง จะสร้างบรรยากาศของความไม่มั่นคงให้กับองค์กรทั้งหมด ในที่แบบนั้น คนเก่งก็ไม่กล้าแสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ คนที่ใฝ่ก้าวหน้าก็จะเบื่อหน่ายอย่างรวดเร็ว เหลือไว้แต่เพียงคนว่าง่ายที่ทำตามคำสั่งเท่านั้นจึงจะอยู่รอด

    ด้วยเหตุนี้ ผมจึงตัดสินใจ ก้าวต่อไปอย่างรวดเร็ว เพื่อหยุดความรู้สึกทรมานใจจากบริษัท และออกไปหางานใหม่เพื่อ ปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเอง เพราะในการทำงาน สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่เงินเดือนหรือตำแหน่ง แต่คือการได้อยู่ใน สภาพแวดล้อมที่โปร่งใส ซึ่งความสำเร็จส่วนบุคคลจะไม่ถูกนำมาใช้เป็นเหตุผลในการตั้งข้อสงสัย

    \

    "นาย ณภัทร" เปิดบ้านใหม่ เซฟโซนพักใจย่านพัฒนาการ วิวสวยเหมือนอยู่เขาใหญ่

    นาย ณภัทร เปิดบ้านสวยเซฟโซนแห่งใหม่ย่านพัฒนา แม้อยู่กลางกรุงแต่ฟีลลิ่งเหมือนเขาใหญ่ ธรรมชาติทุกมุมจริงๆ

    \

    "วิลลี่ แมคอินทอช" เปิดบ้านใหม่สร้างตรงตามฮวงจุ้ย 100% สวยอลังการมาก

    วิลลี่ แมคอินทอช เปิดบ้านใหม่เพิ่งสร้างเสร็จตามหลักฮวงจุ้ย 100% เริ่มตั้งแต่การซื้อที่ชิมดิน ตกแต่งสวยอลังการมาก

    อัปเดตบ้านใหม่ \

    อัปเดตบ้านใหม่ "ญาญ่า" มุมระเบียงดูดาว สวยสุดๆ วิวหลักล้าน แค่ดูยังสดชื่น

    แม่ปลา แม่ของ "ญาญ่า อุรัสยา" อัปเดตบ้านหลังใหม่ที่เขาใหญ่ มุมระเบียงดูดาว สวยมากวิวหลักล้าน แค่ดูยังสดชื่นไปด้วยเลย