เปิดภาพปัจจุบันชายผู้เป็นเจ้าของมีม "กะพริบตาปริบๆ" ใช้กันทั่วโลกมาหลายปีเพิ่งรู้ที่มา
ผู้เป็นเจ้าของมีม "กะพริบตาปริบๆ" ที่โด่งดัง ปัจจุบันแตกต่างจากเดิมมาก และใช้ชื่อเสียงเพื่อการกุศล
มีมที่ชายคนหนึ่งกะพริบตาซ้ำไปซ้ำมาด้วยความงุนงงอย่างไม่เชื่อสายตา ได้กลายเป็นไวรัลในปี 2017 และนี่คือรูปลักษณ์ปัจจุบันของเขาในวัย 39 ปี
ดรูว์ สแคนลอน (Drew Scanlon) จากซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในปี 2017 จาก GIF ที่เขาแสดงท่าทางส่ายหน้า เลิกคิ้ว และกะพริบตา เหมือนจะพูดว่า “โอ้... ว้าว... อย่างนั้นเหรอ”
คุณน่าจะเคยเห็นมีมนี้ทางออนไลน์ และอาจเคยใช้มันเพื่อแสดงปฏิกิริยาต่อเรื่องราวที่คุณรู้สึกตกตะลึง
แม้จะถูกผลักดันให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่สแคนลอนก็ไม่เคยคิดที่จะแสวงหาผลประโยชน์จากการเป็นหนึ่งในใบหน้าที่ผู้คนจดจำได้มากที่สุดบนอินเทอร์เน็ต จนกระทั่งบัดนี้
ใช้ชื่อเสียงให้เป็นประโยชน์

8 ปีต่อมา เขาตัดสินใจใช้ชื่อเสียงของตนทำความดี
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สแคนลอนได้โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม X เพื่อรณรงค์ให้ผู้คนบริจาคเงินให้กับ National MS Society (องค์กรแห่งชาติเพื่อผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง) ซึ่งโพสต์ดังกล่าวได้กลายเป็นไวรัล มียอดเข้าชมถึง 21 ล้านครั้ง ยอดกดถูกใจ 408,000 ครั้ง และรีทวีต 38,000 ครั้ง
“สวัสดีชาวอินเทอร์เน็ต! ผมคือดรูว์ และ นี่คือหน้าของผมเอง” เขาเขียนพร้อมกับคลิปอันเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้เขาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอินเทอร์เน็ตตลอดไป

“หาก GIF นี้เคยนำความสุขมาให้คุณในอดีต ผมขอวิงวอนให้คุณพิจารณาบริจาคเงินให้กับ National MS Society มันจะมีความหมายอย่างยิ่งต่อผมและต่อผู้ที่ผมรู้จักซึ่งได้รับผลกระทบจากโรคนี้!”
ก่อนหน้านี้ เขายอมรับกับ Sky News ว่า “ผมต่อต้าน (การหาเงินจากมีม) เพราะรู้สึกเหมือนว่ามันไม่ใช่ของผม”
“มันถูกสร้างขึ้นโดยอินเทอร์เน็ต และผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับมันเลย มันจะรู้สึกเหมือนวงดนตรีที่สวมเสื้อยืดของวงตัวเอง—มันดูไม่เท่เลย”
แต่ในที่สุด เขาก็ตัดสินใจ “เป่าแตรมีมของตัวเอง” และเปิดเผยตัวตนว่าเป็นใบหน้าเบื้องหลังมีมนี้ เพราะเขาต้องการระดมทุนเพื่อการกุศล
เขาใช้มีมนี้เป็นครั้งแรกในทวีตนั้น และตั้งแต่นั้นมาก็กลายเป็นผู้ระดมทุนชั้นนำ โดยระดมเงินได้กว่า 66,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2,460,000 บาท) ซึ่งเกินเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้กว่า 9,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 336,000 บาท)
“ผมไม่รู้ว่าโอกาสทองเช่นนี้จะมาถึงอีกหรือไม่ ดังนั้นผมจึงถือว่านี่คือโอกาสสำคัญ” เขากล่าว “หากผมสามารถใช้มันเพื่อหาทุนสนับสนุนการวิจัยทางการแพทย์ได้ ผมก็ควรจะลองทำ”
ชาวเน็ตตกตะลึง เมื่อรู้ว่าใครคือชายเบื้องหลังมีมโปรด
ขณะที่หลายคนชื่นชมการใช้ชื่อเสียงในทางนี้ หลายคนก็เพียงแค่แสดงความตกใจเมื่อได้รู้ว่าใครคือชายเบื้องหลังมีมโปรดของพวกเขา
“ยินดีที่ได้เห็นหน้าผู้ที่กะพริบตา” คอมเมนต์หนึ่งกล่าว

“คุณอยู่ในลิสต์ GIF หมุนเวียน 3 อันดับแรกของผมมาตลอด 3 ปีที่ผ่านมาเลยครับ ขอกดติดตามเลย ขอบคุณสำหรับการมีส่วนร่วมต่อความเป็นมนุษย์ดิจิทัล” อีกคนเขียน
“ว้าว ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เจอหน้าคนเบื้องหลังมีมบนไทม์ไลน์ของผม” ข้อความตอบกลับที่สามระบุ
บางคนเห็นภาพถ่ายปัจจุบันของเขาในโปรไฟล์และรู้สึกทึ่งกับรูปลักษณ์ใหม่
“คุณผอมลงมากเลย!” คนหนึ่งกล่าว
ขณะที่บางคนก็คิดว่าเขา “หล่อ” โดยมีคนหนึ่งตอบกลับว่า “คุณโสดไหมคะ? ถามให้เพื่อนค่ะ”
ที่มาของมีม
สแคนลอนเคยเป็นบรรณาธิการวิดีโอที่ Giant Bomb เป็นเวลาแปดปี และเคยอธิบายว่ามีมดังกล่าวถูกบันทึกไว้ในปี 2013 ระหว่างที่เขาไปออกรายการ Unprofessional Fridays ของบริษัทเกมดังกล่าว
คลิปที่โด่งดังในปัจจุบันนี้เกิดขึ้นในขณะที่พวกเขากำลังเล่นเกมทำฟาร์ม แล้วเพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งพูดว่าเขากำลัง “ทำฟาร์มกับจอบของผม” (คำว่า "hoe" ที่หมายถึง "จอบ" มีความหมายอื่นที่ไม่สุภาพด้วย)
คำพูดดังกล่าวทำให้สแคนลอนเลิกคิ้วและกะพริบตาด้วยความไม่เชื่อเพียงชั่วขณะหนึ่ง
ในการให้สัมภาษณ์กับ BuzzFeed ในปี 2017 หลังจากที่มันเป็นไวรัลครั้งแรก เขากล่าวว่าปฏิกิริยาของเขาเป็นไปตามธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ และเขาไม่ได้คิดถึงมันเลยจนกระทั่งเห็นว่าตัวเองกำลังเป็นไวรัลในอีก 4 ปีต่อมา
เขารู้ตัวว่าคลิปสั้น ๆ กำลังระเบิดใน Twitter และบรรยายความรู้สึกนั้นว่า “แปลก” และ “น่ากลัวเล็กน้อย” เมื่อรู้ว่าโลกอินเทอร์เน็ตนั้นยิ่งใหญ่เพียงใด

หลังจากเป็นไวรัล สแคนลอนได้ลาออกจากงาน และใช้เวลาหลายปีในการทำสารคดีที่ระดมทุนจากฝูงชน (Crowdfunded) ชื่อ Cloth Map ซึ่งสำรวจโลกผ่านมุมมองของเกม
ตั้งแต่ปี 2020 ถึง 2024 เขาทำงานเป็นโปรดิวเซอร์ที่ Digital Eclipse ซึ่งเป็นสตูดิโอพัฒนาวิดีโอเกม
ปัจจุบัน เขาร่วมจัดรายการพอดคาสต์ 2 รายการ เป็นรายการเกี่ยวกับภาพยนตร์กับภรรยาของเขา, ซาร่า, และอีกรายการที่เน้นไปที่ Formula 1 และยังคงมุ่งมั่นในการระดมทุนเพื่อวิจัยโรค MS อย่างกระตือรือร้น
ทุกปี เขาจะขี่จักรยานเป็นระยะทางประมาณ 160 กม. ทั่วซานฟรานซิสโกเพื่อระดมทุนให้กับ National MS Society ในฐานะส่วนหนึ่งของกลุ่มปั่นจักรยานเพื่อการกุศล Big El West
“เพื่อนสนิท 2 คนของผมป่วยเป็นโรค MS ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวผมมาก” เขาเปิดเผยบนเว็บไซต์ของเขา